พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์
สำหรับในบทความนี้ เรียกได้ว่าผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในภาพยนตร์ซีรีย์เรื่อง Glee ซึ่งเป็นเรื่องราวของการค้นหาตัวเองโดยวัยรุ่นอเมริกา ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงวัยมัธยมปลาย โดยในหนังเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวงดนตรี และการแข่งขันทางดนตรี ซึ่งตัวละควรแต่ละตัวก็จะต้องบ่มเพาะความสามารถและความภาคภูมิใจในตัวเองความคู่ไปด้วย
หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเรื่อง ความภาคภูมิใจเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิต และความภาคภูมิใจของคนเราจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อเรานับถือตัวเอง และ ชีวิตไม่มีวันก้าวหน้า ถ้าคุณขาดเรื่องนี้
ชีวิตจะเป็นอย่างไร ถ้าเราขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง…
1. กระวนกะวายใจและหดหู่
เมื่อเราไม่ภาคภูมิใจในตัวเอง สิ่งแรกที่จะเกิดผลกระทบ ก็คือเรื่องด้านในของเราเอง เพราะเราจะรู้สึกกระวนกระวาย หดหู่ ซึมเศร้า เครียด ซึ่งเราลองทบทวนตัวเองดูก็ได้ว่า ในบางครั้งถ้าเรารู้สึกว่าไม่ภาคภูมิใจในตัวเอง เราจะรู้สึกเสียศูนย์ สภาวะจิตใจของเราจะไม่สมดุล ปกติสุข
2. บ่งบอกผ่านภาษากายที่ไม่มั่นใจ
เมื่อสภาวะภายในของเราไม่มีความภาคภูมิใจ แม้เราไม่พูดมันออกมา แต่พฤติกรรมของเรามันจะสะท้อนออกมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ด้วยการแสดงออกของบุคลิกภาพที่ไม่มั่นใจในตัวเอง จะดูแล้วห่อเหี่ยว ตัวลีบเล็ก ไม่สง่าผ่าเผย
3. เราจะมองเห็นคุณค่าของตัวเองต่ำลง
เมื่อเราไม่นับถือตัวเอง เราจะมีทัศนคติต่อตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง เราอาจจะมองว่าเราไม่ประสบความสำเร็จเลย เราจะมองว่าคนอื่นมีความสามารถที่เหนือกว่าเรา ความมั่นใจตัวเองก็จะถดถอย และการติดสินใจก็คลาดเคลื่อนไป
มนุษย์ต้องการอะไรในชีวิต…
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราวิวัฒนาการผ่านยุคสมัยต่าง ๆ มาด้วยการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เอาชีวิตรอดจากสัตว์ร้าย จากภัยธรรมชาติ สร้างแหล่งที่อยู่อาศัย หาอาหาร พฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ส่งผ่านมาจนถึงมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่จะต้องการการยอมรับ ต้องการการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เพื่อได้รับการยอมรับ ได้รับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า รู้สึกว่ายังเป็นที่ต้องการของคนอื่น ๆ
ชีวิตจะเป็นอย่างไร ถ้าเราภาคภูมิใจในตัวเอง
1. เป็นตัวของตัวเอง และประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราภาคภูมิใจในตัวเอง เราจะไม่ปฏิเสธความเป็นตัวของตัวเอง เราจะเป็นตัวของตัวเองอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในแบบที่เราเป็น ดังนั้น เราจะต้องเริ่มจากการมีเป้าหมายในชีวิต รู้ความต้องการของตัวเอง และพัฒนาตัวเองไปให้ถึงในสิ่งที่เราต้องการ
2. เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น และยอมรับความแตกต่าง
ในเวลาที่เราเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เราจะเข้าใจธรรมชาติในความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นด้วย ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์คือความแตกต่าง หลาย ๆ ครั้งที่คนเราทะเลาะกันนั้น อาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจในตัวเอง ความไม่เข้าใจผู้อื่น ตลอดจนไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วมนุษย์นั้นมีความแตกต่างกัน มีค่านิยมที่ไม่เหมือนกัน เพราะได้รับการหล่อหลอมมาจากสภาพสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
ถ้าเราเข้าใจตัวเอง เราจะเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น และยอมรับในความแตกต่างของอัตลักษณ์ระหว่างบุคคล
3. กล้ายืนยันและอธิบายในสิ่งที่ตัวเองคิด แม้ว่าจะมีคนไม่เห็นด้วย
เราจะสามารถอธิบายได้อย่างมั่นใจในสิ่งที่เราเชื่อ แม้ว่าจะมีคนที่ไม่เห็นด้วย แต่เราก็จะอธิบายได้ว่าทำไมเราถึงมีความเชื่อที่แตกต่าง เพราะเรามีเหตุผลเฉพาะตัว ไม่ใช่แค่จำคำพูด หรือเชื่อตามๆ กันมา แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจตัวเอง คุณจะโดนคนรอบข้างลากคุณไปในทิศทางที่เขาอยากให้คุณไป
4. เผชิญความไม่แน่นอนต่าง ๆ ได้
เราจะรักตัวเอง และสามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนต่าง ๆ ได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตัวเอง จะทำให้เราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถปรับตัวได้ในทุก ๆ สถานการณ์ รวมถึงเราจะไม่โทษคนอื่น ไม่ทำร้ายคนอื่น ซึ่งจะแตกต่างจากคนที่ไม่ภูมิใจในตัวเอง เขาจะไม่พอใจและรู้สึกกดดันเมื่อพบเจอกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และอาจระบายออกด้วยการทำร้ายความรู้สึกคนอื่น
5. ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ
ไม่ว่าเราจะล้มสักกี่ครั้ง ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเอง เราจะสามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ รวมถึงความภาคภูมิใจในตัวเอง ซึ่งเป็นความรู้สึกมั่นใจที่เกิดมาจากภายใน จะทำให้เราไม่จำเป็นจะต้อง show-off จนเกินงาม เพราะต้องการให้คนอื่นมายอมรับในความเป็นตัวเรา
6. ไม่ต้องขออนุญาตใครเพื่อให้เรามีความสุข
เราจะไม่ต้องขออนุญาตใครเพื่อมีความสุขในแบบของเรา เพราะเราจะไม่ใช้ชีวิตเพื่อให้ถูกใจคนอื่น ไม่โกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี ไม่ทำตัวอวดเก่งไปเสียทุกอย่าง เพื่อปกปิดในเรื่องที่ตัวเราไม่รู้
7. ไม่อยากสมบูรณ์แบบจนเครียด
คนที่มีความนับถือตัวเอง จะเข้าใจว่าความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ที่สุด วันนี้เราอาจจะคิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่สมบูรณ์ แต่ในวันพรุ่งนี้โลกก็จะต้องการในสิ่งที่ต่างไปจากเดิม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง แต่จะขับเคลื่อนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นเสมอในทุก ๆ วัน
หลายคนอยากจะสมบูรณ์แบบจนเครียด เพราะยึดติดในความสมบูรณ์แบบมากจนเกิดไป ซึ่งอันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ทุกคนก็ต่างเคยล้มเหลวและผิดพลาดมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น
ฝึกความเชื่อมั่นในตัวเองได้อย่างไร
ความมั่นใจ ความเชื่อมั่น หรือการนับถือตัวเองนั้น หลาย ๆ คนมองว่ามันเป็นเรื่องภายใน เป็นเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับการทำธุรกิจ และพยายามที่จะมองหาวิธีการหรือเครื่องมือที่จะมาช่วยให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง ๆ ผมก็อยากจะบอกว่า ชีวิตคนเรานั้นจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าหากมันไม่ได้เริ่มต้นจากตัวเราเองก่อน
ดังนั้น วิธีการในการที่จะทำให้เราเกิดความเชื่อมั่น และนับถือตัวเองนั้น ฝึกฝนได้ดังนี้
Action:
- Set goal – เขียนเป้าหมาย
- Daily success – เขียนสิ่งที่คุณทำสำเร็จในแต่ละวัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหน 5 ข้อ
- Daily thank you – เขียนขอบคุณถึงบุคคล เหตุการณ์ สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ ในแต่ละวัน 5 ข้อ
- Talk positive – คุยกับตัวเองในแง่บวกทุก ๆ วัน
- Never ask, never get – อยากได้ให้เอ่ยปากขอ ถ้ารู้ตัวว่าไม่ไหว ให้ขอความช่วยเหลือ
และทั้งหมดนี้ก็คือ ชีวิตไม่มีวันก้าวหน้า ถ้าคุณขาดเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทักษะภายใน ที่อาจจะดูเหมือนจับต้องได้ยาก แต่ผมก็อยากให้เราได้ลองพิจารณาทำความเข้าใจ และฝึกฝน เพื่อบ่มเพาะให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาในตัวของเรา ถ้าเราเข้าใจตัวเอง ภาคภูมิใจในตัวเอง เราจะรักตัวเองมากขึ้น และประสบความสำเร็จมากขึ้น