พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์
ปัจจุบันโลกยุคที่เรียกว่า VUCA world ซึ่งหมายถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยสภาพแวดล้อมและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดย VUCA world จะมีลักษณะคือ
- Volatility – เปลี่ยนไว
- Uncertainty – ไม่แน่นอน
- Complexity- ซับซ้อน
- Ambiguity – คลุมเครือ
ดังนั้น สำหรับมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ทำให้เราอยู่รอดมาได้ตลอดมา ตั้งแต่อารยธรรมมนุษย์ยุคโบราณ ตราบจนเข้าสู่อารยธรรมแห่งอนาคต สิ่งนั้นก็คือ “การปรับตัว”
ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่แน่นอน ซับซ้อน คลุมเครือ คนที่จะอยู่รอดได้ คือคนที่มีทักษะการปรับตัวได้ดี ซึ่งทักษะการปรับตัว หรือ Adaptability skills เป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ (และควรฝึกเป็นอย่างยิ่ง) แม้ว่าจะเป็นทักษะที่ชีวัดได้อยาก เพราะเป็นทักษะ Soft skills แต่ทักษะนี้ ในโลกแห่งอนาคต จะกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากว่าทักษะแบบ Hard skills แน่นอน เพราะโลกยุคต่อไป computer และ AI กำลังจะเข้ามาแทนที่ ทักษะ Hard skills ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- S- Scientific วิทยาศาสตร์
- T – Technology วิทยาการเทคโนโลยี
- E – Engineer วิศวกรรม
- M – Mathematic การคำนวณ
ทักษะ Hard skills ที่ชี้วัดจับต้องได้บนความแน่นอนเหล่านี้ กำลังจะถูกแทนที่ด้วย computer และ AI ทำให้งานในหลายสาขาอาชีพจะหายไป เช่น งานบัญชี คำนวณเลข การเงิน ครู เป็นต้น
ดังนั้น หน้าที่ของเราในฐานะมนุษย์ เราจึงควรจะพัฒนาทักษะที่ computer และ AI ยังไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทักษะ 6 ข้อ ที่ช่วยให้คุณเป็นต่อเรื่องการปรับตัว
1. Creative thinking
เราจะต้องมีการฝึกคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ โดยในยุคนี้การแก้ปัญหาใหม่ ๆ ยังมีความจำเป็น เพราะโลกเปลี่ยนไว ปัญหาใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นไว ดังนั้น เมื่อโลกเปลี่ยน ปัญหาเปลี่ยน เราจึงไม่สามารถใช้วิธีแก้ปัญหาแบบเก่าได้ เราจะต้องคิดนอกกรอบ คิดแบบก้าวหน้า เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีกว่าเดิม โดยสิ่งที่เราควรจะฝึกก็คือ
- ศึกษาสิ่งใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
- พาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ใหม่
- ใช้เวลาทำกิจกรรมแปลก ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
- แลกเปลี่ยนความคิด และคิดแบบต่อยอด
ถ้าเราอยากจะเป็นคิดที่คิดอย่างสร้างสรรค์ เราจะต้องทำลายกรอบความคิดเดิม ๆ ให้ได้เสียก่อน เพราะเรากำลังจะคิดในสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน การออกไปทำสิ่งใหม่ ๆ จะเป็นการทำให้เราหลุดออกจากกระบวนทัศน์เดิม
2. Strategic thinking
คิดที่ปรับตัวเก่ง จะเป็นคนที่มีวิธีคิดแบบนั้นยุทธศาสตร์ โดยการที่เราจะคิดแบบยุทธศาสตร์ได้ เราจะต้องมองปรากฏการณ์ให้ออก จากอดีต ปัจจุบัน ไปสู่อนาคต เมื่อเราเห็นความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงของเหตุปัจจัย เราจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และควรจะว่างยุทธศาสตร์อย่างไร
เช่น ถ้าประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว พบว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาแน่ ๆ เราก็ต้องมีการวางแผนป้องกัน หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้คือทักษะการปรับตัวเช่นกัน ซึ่งเราต้องฝึกการคิดแบบยุทธศาสตร์ ดังนี้
- สังเกตปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอ
- ถามในสิ่งที่ไม่รู้ ไม่แน่ใจ และคนหาคำตอบให้ได้
- สร้าง mindmap อันเป็นกระบวนการคิดแบบเชื่อมโยงเหตุปัจจัย เห็นความเป็นเหตุและผลระหว่างกันของสิ่งต่าง ๆ
- ตั้งสมมติฐานอย่างชาญฉลาดเสมอ เช่น ถ้าโลกต้องเผชิญกับวิกฤติโควิดไปอีก 10 ปี เราจะทำอย่างไร
3. Problem solving skills
การคิดแบบแก้ปัญหา คือการทำให้สามารถรอดพ้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ เป็นทักษะสำคัญอย่างหนึ่งของการปรับตัวเช่นกัน คนที่ปรับตัวเก่ง จะมีความเป็นนักแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร ก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้หมด ซึ่งทักษะการแก้ปัญหาสามารถฝึกฝนได้ ดังนี้
- สังเกต เพื่อให้เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง
- วิเคราะห์ เพื่อให้เราเห็นปัญหาได้อย่างละเอียด เป็นการแยกส่วนประกอบของปัญหาว่าเกิดจากอะไร
- ให้คำแนะนำผู้อื่น แม้เป็นปัญหาของคนอื่น แต่ถ้าเราไปช่วยเขาแก้ปัญหาได้ ก็จะทำให้เรามีความชำนาญในการแก้ปัญหา
- พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เวลาที่เจอปัญหาใด ๆ ก็ตาม จะต้องไม่ยอมแพ้ (ถ้าแพ้ต้องให้เจ็บตัวน้อยที่สุด)
หลายคนไม่ชอบปัญหา วิ่งหนีปัญหา ไม่อยากเจอปัญหา แต่ถ้าหากเราปรับมุมมองใหม่ ก็คือ คนเราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา บริษัทจ้างเรามาเพื่อแก้ปัญหา ลูกค้าอยากให้เราช่วยแก้ปัญหา เพราะโลกมีปัญหา ตัวเราจึงมีคุณค่า เราก็จะไม่กลัวไม่หนี และพร้อมจะเอาชนะทุกปัญหาให้ได้
4. Interpersonal skills
ถ้าเราอยากเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ เราจะต้องเป็นคนที่เข้าสังคมได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ปรับตัวและรอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ มาได้ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การทำธุรกิจก็เช่นกัน ถ้าเราไม่มีเครือข่าย ไม่มีเพื่อนเลย เราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจได้โดยง่าย ทักษะการเข้าสังคมฝึกฝนได้ ดังนี้
- ฟังเป็น ไม่ใช่แค่การได้ยิน แต่เป็นการฟังอย่างลึกซึก เพื่อให้เข้าถึงก้นบึ้งของหัวใจผู้พูด
- เห็นใจ เป็นคนมีเมตตาต่อผู้อื่น ให้การช่วยเหลือตามสมควร
- ใจเย็น ไม่เป็นคนขี้โกรธขี้โมโห ใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้
- มีความอดทนต่อสถานการณ์บีบคั้นต่าง ๆ
5. Communication skills
การที่เราจะเป็นคนที่ปรับตัวเก่ง เราจะต้องเป็นคนที่สื่อสารทำความเข้าใจกับผู้อื่นได้ดี เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว ทำธุรกิจคนเดียว ถ้าเราไม่สามารถจะสื่อสารกับคนอื่นได้ ทุกอย่างก็จะดำเนินไปได้อย่างยากลำบาก
6. Team work skills
การทำธุรกิจ คือการทำงานเป็นทีม ถ้าไม่มี Team work การทำธุรกิจก็จะไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการปรับตัว ถ้าทีมขยับช้าก็เป็นการปรับตัวที่ไม่ทันกาล ดังนั้น ควรฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม ได้แก่
- การทำตัวให้เป็นประโยชน์ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของทีม ทีมเป็นส่วนหนึ่งของเรา
- การรับมือข้อขัดแย้งให้ได้ และประสานรอยร้าวให้กลับมาดีเหมือนเดิม
- การใช้เหตุผลในทุกการกระทำ อย่าทำตามอำเภอใจ โดยไร้เหตุผล
- การรักษาบรรยากาศการทำงานให้ดี
และทั้งหมดนี้ก็คือ ทักษะ 6 ข้อ ที่ช่วยให้คุณเป็นต่อเรื่องการปรับตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องฝึกฝนบ่มเพาะให้เกิดขึ้นในตัวเอง โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ การที่เราจะประคับประกองให้ธุรกิจของเราปรับตัวรอดพ้นความเปลี่ยนแปลงของโลกไปได้ ก็ย่อมเกิดขึ้นมาจากทักษะภายในของผู้นำองค์กร นั้นก็คือตัวเราเอง
ทั้งนี้ ยังมีทักษะอีก 2 เรื่องที่ผมอยากจะให้เราเพิ่มเติมเข้าไปในการฝึกฝน เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดบนความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ นั้นก็คือ (Organizational skills) การรู้จักลำดับความสำคัญของงาน เพราะโลกยิ่งเปลี่ยนเร็วเท่าไหร่ เราจะยิ่งมีเรื่องให้ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จะต้องเลือกทำงานที่ทำเงินก่อนเป็นอันดับแรก และงานอื่น ๆ เป็นงานในลำดับถัดไป และ (Learning skills) อันเป็นความสามารถของการเรียนรู้ได้เร็ว เพราะถ้าเราเรียนรู้ช้า เราก็จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ช้า ในขณะที่โลกก็ไม่รอเรา…