บทเรียนจากหมาป่าล่าเงิน (Wolf of Wallstreet)

[xyz-ips snippet="Podcast"]
พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์

สำหรับวันนี้ผมจะมาแบ่งปันแง่คิดในการดำเนินธุรกิจ จากภาพยนตร์เรื่อง Wolf of Wallstreet ซึ่งเป็นเรื่องราวของหมาป่านักล่าเงินแห่งตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1987 นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio ซึ่งรับบทเป็น Jordan Belfort

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง ปี 1990 ในขณะที่ Jordan มีอายุ 20 กว่าปี เขาได้เป็นนายหน้าค้าหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท แต่แล้วบริษัทที่เขาทำงานด้วยเกิดล้มละลายและปิดกิจการไป เขาจึงมองหาบริษัทใหม่ที่เขาจะสามารถไปทำงานได้ จึงไปเจอบริษัทหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในวอลล์สตรีท แต่บริษัทนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศอเมริก เมื่อไปทำงานด้วย เขาจึงได้ค้นพบว่ามีหุ้นอยู่ 1 ประเภทที่สามารถให้ผลตอบแทนกับนายหน้ามากกว่าเดิมถึง 50 เท่า จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Jordan ก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า Stratton Oakmont และทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จากพนักงาน 6 คนขายไปเป็น 300 คนอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ในภาพยนตร์ยังได้เผยให้เห็นเกี่ยวกับด้านมืดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด เรื่องการหลอกลวงคตโกงกัน จนทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไป

ซึ่งบทเรียนจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เราจะนำเอามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/561458/

1. อยากมีชีวิตที่ดีให้ขายสินค้า อยากรวยแบบไม่ธรรมดาให้ขายความฝันให้กับลูกค้า

ในหนังเรื่องนี้ Jordan พูดว่า การที่เขาขายหุ้นขยะ ให้กับคนเก็บขยะ ก็สามารถทำให้เขารวยได้ ซึ่งหุ้นขยะก็คือหุ้น Pink sheet – Penny ซึ่งเป็นหุ้นที่ยังไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ยังเป็นเรื่องที่ไม่มีคนรู้จัก จนเขาทำกำไรได้มากถึง 10 เท่า โดยขายหุ้นประเภทนี้ให้กับคนที่ไม่มีความรู้ในด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถบรรทุก ชาวนาชาไร่ คนเก็บขยะ กรรมกร เป็นต้น

โดยเวลาที่ Jordan เปิดการขายนั้น เขาจะเริ่มต้นด้วยการขายความฝัน ว่า “ถ้าคุณลงทุนด้วยเงิน 6,000 เหรียญ คุณจะสามารถทำกำไรได้ถึง 60,000 เหรียญ และมันจะทำให้คุณไถ่ถอนบ้านได้เลย”

ดังนั้น หุ้นเหล่านี้คือหุ้นที่ให้ภาพฝันว่ามันจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน โดยคนที่มีความโลภก็จะคล้อยตามในสิ่งที่ Jordan พูด เพราะมันเป็นความฝันที่ทุกคนกำลังต้องการ จนเทคนิคนี้ก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

2. ธุรกิจที่อยู่มานาน ไม่ได้แปลว่าจะล้มละลายไม่ได้

ความสำเร็จในการทำธุรกิจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเป็นหน้าใหม่ หน้าเก่าในวงการ แม้ว่าเราจะพึ่งตั้งบริษัทใหม่ก็มีโอกาสที่จะเอาชนะบริษัทที่มีความเก่าแก่ได้เสมอ ดังนั้น ไม่ต้องกลัวว่าเวลาที่เราทำธุรกิจเราจะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ เพียงแต่เราจะต้องมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจที่มากพอ มีกลยุทธ์ที่ดีกว่า

ในวงการธุรกิจมีบริษัทมากมายที่ขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด แล้วก็ตกลงไป เพราะคู่แข่งขึ้นมานำหน้า แล้วเข้าก็กลับขึ้นมาแซงหน้าคู่แข่งได้อีกครั้ง ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้อยู่ในสถานการณ์เหล่านี้เยอะมาก จนทำให้เห็นวงจรชีวิตทางธุรกิจของแบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จนั้น เขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร และเวลาที่เขาจะตกต่ำนั้น มันเป็นเพราะอะไร จนกระทั่งผมก็ได้ค้นพบสัจธรรมว่า ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จ มันที่สิ่งที่ต้องทำอะไรบ้างที่จะทำให้คุณชนะเบอร์หนึ่งที่อยู่ในตลาด

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/416047/

3. ทำให้ง่าย แบบที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

คุณจะค้นพบว่าบริษัทใหญ่ ๆ จะทำสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ นั้นก็คือการทำงานยาก ๆ ให้เป็นงานง่าย ๆ ถ้างานไหนที่มันยากเกินกว่าที่คนธรรมดาจะทำได้ คุณจะไม่มีวันจะขยายธุรกิจได้ ถ้าอยากทำธุรกิจให้ใหญ่ คุณจะต้องทำงานให้ง่าย และฝึกฝนให้คนสามารถทำมันได้ไม่ว่าเขาจะมีความรู้สูงต่ำ หรือทำอาชีพอะไรมาก่อน พวกเขาจะต้องทำมันได้ในระยะเวลา 3 – 6 สัปดาห์

ถ้าบริษัทของเรามีระบบการฝึกอบรม โดยแยกย่อยระบบการทำงานออกมาให้เหลือเป็นชิ้นย่อย ๆ ที่ทำได้แบบง่าย ๆ แล้วฝึกฝนให้คนทำได้แบบซ้ำ ๆ เราก็จะสามารถขยายธุรกิจได้ ยิ่งธุรกิจมีความซับซ้อนเท่าไหร่ มันจะยิ่งขยายตัวไม่ได้ เพราะฉะนั้น “ทำกระบวนการให้ง่ายเข้าไว้ ใคร ๆ ก็ทำได้ แล้วธุรกิจของคุณก็จะประสบความสำเร็จ”

ในหนังเรื่องนี้ Jordan ได้เปลี่ยนคนหนุ่มสาวที่ไม่ได้มีการศึกษาสูงส่งอะไร เป็นคนธรรมดา ๆ แต่เขาก็สามารถนำเอาคนเหล่านี้มาฝึกฝนให้เป็นนายหน้าค้าหุ้นที่มีเสน่ห์ได้ เพราะว่าตัวเขาเป็นผู้ฝึกสอนและให้วิธีการพูดคุยกับลูกค้าว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ผมเองเคยเขียน เทคนิคในการนำเสนอการขายอย่างไรให้ลูกค้ายากจะปฏิเสธ ซึ่งสามารถไปติดตามอ่านเพิ่มเติมได้

4. ถ้าเจอสิ่งที่ใช่ ก็ใส่ให้ยับเลย

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะมีเพื่อนพระเอกคนหนึ่งชื่อ Donnie Azoff ซึ่งได้เดินมาทักทายกับ Jordan และสงสัยว่ารถที่ Jordan ซื้อนั้นมันสวยมาก ๆ และ Jordan ซื้อรถคันนี้ได้อย่างไร Jordan ประกอบอาชีพอะไรทำไมถึงมีเงินมากมายขนาดนี้ เมื่อ Jordan บอกว่า เดือนที่แล้วเขาสามารถหาเงินได้ 72,000 เหรียญ

ตอนแรก Donnie ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ที่ใช้เวลาแค่ 1 เดือน หาเงินได้ 72,000 เหรียญ เขาจึงท้าว่า ถ้า Jordan พิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เขาจะลาออก และมาทำงานให้กับ Jordan

เมื่อ Jordan พิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง Donnie ก็โทรศัพท์ไปหาเจ้านาย เพื่อลาออกจากงานเดิมทันที

ดังนั้น บทเรียนจากภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเราว่า “ถ้าเจอสิ่งที่ใช่ ก็ใส่ให้ยับเลย” โดยไม่ต้องลังเลว่าคุณจะมีความสามารถที่จะทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยากได้ กระโดดใส่ไปเลย ต่อให้คุณไม่สามารถทำเงินได้ 72,000 เหรียญ ต่อเดือน แต่คุณทำได้เพียง 7,100 เหรียญต่อเดือนก็ถือว่าเยอะมาก ๆ แล้วในยุคนั้น

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/838413/

5. เมื่ออุจจาระ ปะทะพัดลม

คำนี้เป็นสำนวลของฝรั่งที่เขาพูดกัน คือเมื่ออุจจาระ ปะทะพัดลม นั้นคือจังหวะหายนะ อย่างเช่นในช่วงที่ Jordan Belfort เริ่มต้นอาชีพนายหน้าค้าหุ้น ที่บริษัททรัพย์ชั้นนำหอย่าง L.F. Rothschild แต่หลังจากที่เขาถูกให้ออกจากงาน เขาก็มองหาโอกาส แล้วได้ย้ายไปอยู่ในสถานที่ใหม่ และสามารถขายหุ้นตัวใหม่จนประสบความสำเร็จได้

ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้ก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดความล้มเหลวทางธุรกิจ หรือในหน้าที่การงาน เราจะต้องมองหาโอกาสใหม่ นี้คือบทเรียนที่บอกเราว่า “เมื่ออุจาระ ปะทะพัดลม” ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถเอาตัวรอดได

6. จงเลี่ยงหุ้น IPO ที่ฟังดูดี

ต้องบอกว่าปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทย ใครที่จะทำหุ้น IPO ก็จะทำหนังมาโฆษณาชวนเชื่อ ว่าเป็นหุ้นดีถึงแม้ PE จะสูงก็เป็นเพราะว่าเขาเอาเงินไปลงทุนเพื่อตอบแทนผู้บริโภค แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผลตอบแทนก็ยังไม่ดูดีเท่าที่ควร ดังนั้น ถ้า PE สูงก็แสดงว่า ราคาหุ้นมันเกินราคาซื้อขายในความเป็นจริงไป

ดังนั้น จงเลี่ยงหุ้น IPO ที่แม้ว่ามันจะฟังดูดี และเจ้าหุ้น IPO พวกนี้แหละ ที่เป็นหุ้นซึ่ง Jordan ขายอยู่ โดยกุเรื่องราวว่าเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจ ยังไม่มีใครรู้จัก มีเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เกิดผลกำไรมากขึ้น เป็นต้น

เพราะฉะนั้น เวลาที่ใครก็ตามมาเสนอขายหุ้นให้กับเรา และพูดแต่สิ่งที่เราอยากได้ยิน สิ่งที่น่าสนใจ สิ่งที่เป็นผลกำไรก้อนโต ก็ให้ระวังเอาไว้ว่ามันอาจจะมีความผิดปกติบางอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/4340036/

7. ทำตัวให้สมกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังว่าเขาจะได้เห็น

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของนายหน้าค้าหุ้น ลูกค้าก็อยากที่จะซื้อหุ้นจากนายหน้าที่มีความรู้จริง ๆ แต่ Jordan Belfort ไปหยิบคนที่ไม่มีความรู้จริง ๆ มาฝึกพูด ให้ฟังแล้วเหมือนคนมีความรู้ นำเอาคนเหล่านั้นมาแต่งตัวดี ๆ เหมือนคนที่ประสบความสำเร็จในการซื้อขายหุ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความคาดหวังของลูกค้าที่อยากจะเห็น อยากจะได้ยินทั้งสิ้น

ซึ่งบทเรียนนี้ก็สอนเราว่า เราจะต้องทำตัวให้สมกับความคาดหวังของลูกค้า เพราะเรามีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่จะสร้างความประทับเมื่อแรกพบ เราจะต้องแต่งตัว ต้องพูดจา วางตัวให้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่และอาชีพของเรา ถ้าคุณทำตัวไม่สมกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง คุณก็จะขายอะไรไม่ได

8. อยากขายได้ ให้ใช้ความเจาะจง

ในหนังเรื่องนี้ Jordan ได้เขียนบทพูดสำหรับการเสนอขาย โดยมีการเจาะจงบทพูดสำหรับกลุ่มคนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดกับคนรวยจริง ๆ

เขาบอกว่าคนที่รวยขนาดนั้น ไม่มีทางซื้อหุ้น Penny ของเขาง่าย ๆ ถ้าเกิดว่ายังไม่รู้สึกเชื่อใจนายหน้า ดังนั้น วิธีการของเขาก็คือการขายหุ้นที่มีความน่าเชื่อถือไปก่อน เมื่อได้รับความไว้ใจแล้ว ก็ค่อย ๆ นำเสนอหุ้นนอกสายตา หุ้นนอกตลาด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จในการขายได้

ดังนั้น อย่าขายให้กับคนทุกคน แต่จงขายให้กับคนบางคน และการขายให้คนบางคนนั้น เป็นการขายที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า เนื่องจากบทพูดสำหรับการขายของคุณจะแม่น จะตรงประเด็น พนักงานขายของคุณจะสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากขายให้ได้ ให้ใช้ความเจาะจงมากที่สุด

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3184338/

9. สร้างทีมที่มีความซื่อสัตย์

หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่พูดถึงเรื่องภาวะผู้นำได้ดีมาก ๆ เพราะตัวเอกของเรื่องก็คือ Jordan เป็นคนที่มีลักษณะของความเป็นผู้นำสูงมาก

ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จจะมีคือ ให้พนักงานทุกคนรู้ว่า บริษัทกำลังจะเดินไปในทิศทางไหน ถ้ามีทิศทางชัดเจน ความกังวลก็จะน้อยลง และมีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงต้องให้ค่าตอบแทนมากพอที่จะทำให้พนักงานมีความสุขมาก ๆ และสุดท้ายจะต้องมีผู้นำ ในการที่จะพาทีมมุ่งไป และมองหา ตลอดจนไขว้คว้าในสิ่งที่อยากจะได้ เพื่อให้ได้มา และนั้นก็คือความสำเร็จของทีม และจะทำให้ทีมซื้อสัตย์กับเรา

และทั้งหมดนี้ก็คือ บทเรียนจากหมาป่าล่าเงิน (Wolf of Wallstreet) ซึ่งผมถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังทำธุรกิจจะพลาดในการรับชมไม่ได้เลยทีเดียว โดยยังมีบทเรียนอีกหลายเรื่องที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจ หรือในการลงทุนซื้อขายหุ้นของเราได้อย่างแน่นอน

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ปีหน้าจะทำอย่างไร

ไร้สาระสิ้นดี!!! ทำงานก็มีผลลัพธ์
แล้วทำไมต้องประจบเจ้านาย บ้าไปแล้ว
ทำไมไม่ให้ผลงานเป็นตัวตัดสินหละ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนที่เก่งคน
เก่งการนำเสนอ และเจ้านายรัก
ถึงมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น?

อ่านต่อ »

เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

ทำงานดีทั้งปี เจ้านายไม่เห็นผลงาน
เจ้านายไม่รู้ เจ้านายไม่เห็นความสำคัญ
เพราะไม่ตรงกับเป้าหมาย ทำให้ตายก็
ไม่ไปไหนซักที
เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

อ่านต่อ »

รับสิทธิพิเศษมั๊ย?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า

ลงทะเบียนตอนนี้ รับ E-Books ฟรี!!