บริษัทเล็กๆ จะหาเด็กเก่ง ควรทำอย่างไร

[xyz-ips snippet="Podcast"]
พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์

หลาย ๆ คนอาจจะมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาบ้างแล้ว ซึ่งปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับบริษัทเล็ก ๆ คือการที่จะหาเด็กเก่ง ๆ มาทำงานด้วยได้ยาก แม้แต่ประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง ที่ได้เคยเปิดบริษัทใหม่ ก็ได้พบกับปัญหานี้เช่นกัน สุดท้ายก็ค้นพบวิธีการที่เราจะแก้ปัญหา ซึ่งผมจะเอามาบอกเล่าแบ่งปันให้กับทุกคนได้อ่านกัน ว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

ซึ่งโดยปกติเวลาที่หลาย ๆ คนเปิดบริษัทใหม่ เงินทุนก็อาจจะยังมีไม่มาก ในช่วงแลกตัวเองอาจจะต้องทำงานเกือบทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่เมื่อเราเริ่มมีรายได้ บริษัทเริ่มโต เราจะหาคนเก่ง ๆ มาทำงานกับเราได้ด้วยวิธีการดังนี้

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/937481/

1. เจ้าของต้องเจ๋ง

แม้ว่าบริษัทของเราอาจจะยังเล็ก พึ่งจะกำลังเติบโต แต่มีเจ้าของบริษัทที่เจ๋ง ๆ คนเก่งก็ย่อมอยากจะมาเรียนรู้ด้วย แต่ถ้าบริษัทเล็ก แล้วเจ้าของไม่เก่ง ก็คงไม่มีใครเจ๋ง ๆ ที่อยากจะมาทำงานด้วย

เพราะธรรมชาติของคนเก่ง ถ้าเขาได้ทำงานและเรียนรู้ไปด้วย เขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า รู้สึกมีแรงจูงใจที่อยากจะทำงาน อยากจะเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองยังไม่รู้ รวมถึงคนเก่งไม่ชอบทำงานท่ามกลางคนโง่ เพราะผมเองก็เคยจ้างคนเก่งมาทำงาน และพบว่าจ้างมาทำงานแค่คนเดียวไม่พอ จะต้องจ้างมาหลาย ๆ คน เพื่อให้เขารู้สึกว่าตัวเขาเองได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ หลายคน ทำให้รู้สึกสนุก และทำงานสอดประสานกันได้อย่างลื่นไหล

ถ้าวันนี้เราเป็นเจ้าของบริษัทเล็ก ๆ เราต้องมองหาแล้วว่าตัวเองมีดีอะไรบ้างที่จะดึงคนเก่ง ๆ ให้มาทำงานด้วย แต่ถ้าดูแล้วไม่ได้มีของดีติดตัวอะไรพอจะดึงดูดคนเก่งให้มาทำงานด้วย ก็ให้ไปดูที่ข้อต่อไป

2. สินค้าต้องแจ๋ว

ถ้าเจ้าของไม่เจ๋ง สินค้าต้องแจ๋ว จึงจะดึงคนเก่ง ๆ มาทำงานด้วยได้ยาก โดยสินค้าอาจจะมีจุดขายที่ชัดเจน หรือเป็นสินค้าที่สร้างคุณประโยชน์ได้อย่างประจักษ์แจ้ง หรืออาจจะเป็นสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งยังไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้

ดังนั้น วันนี้เราต้องกลับมาดูว่าสินค้า หรือบริการของเรามันแจ๋ว พอที่จะดึงดูคนเก่ง ๆ ให้มาทำงานร่วมกับเราได้หรือเปล่า

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3856042/

3. ทีมงานต้องสนุก

ถ้าสินค้าไม่เจ๋ง และเจ้าของก็ไม่แจ๋ว เราต้องมีบรรยากาศการทำงานที่สนุก มีทีมงานที่ทำงานด้วยแล้วสนุก ซึ่งผมเองทุกวันก็เล่น TikTok ก็ไปเจอผู้ใช้รายหนึ่ง ชื่อว่า Office2Day ซึ่งเป็นเพื่อนผมเอง เป็นบริษัท agency โฆษณา ซึ่ง Office ของเขาตลกมาก เขาจะทำคลิปบรรยากาศการทำงานต่าง ๆ ซึ่งคลิปต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้คนที่ได้รับชมมีความรู้สึกสนุกสนาน ผ่อนคลาย และอยากจะไปรวมงานด้วย หรือแม้แต่ลูกค้าเองก็อยากจะจ้างให้มาทำงานให้

ถ้าบรรยากาศดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะไม่มีใครอยากจะไปอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศเครียด ๆ พนักงานจะรู้สึกว่าการทำงานคือความสนุก ความบันเทิง แถมยังได้เงิน และได้เรียนรู้อีกด้วย

4. วัฒนธรรมหัวก้าวหน้า

ถ้าทีมงานไม่สนุกจะต้องมีวัฒนธรรมหัวก้าวหน้า ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหัวก้าวหน้า รวมถึงสภาพสังคมในปัจจุบันนี้ ทางเลือกหรือโอกาสในการหาเงินของเขานั้นมีเยอะ เพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ มีความเกื้อหนุนให้เกิดทางเลือกใหม่ ๆ ในการเข้าถึงโอกาสที่จะหารายได้

ถ้าเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ โดยทีเจ้าของก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก สินค้าก็ยังไม่โดดเด่น ทีมงานก็ไม่สนุก สิ่งที่เราควรจะต้องมีคือวัฒนาธรรมหัวก้าวหน้า หมายความว่า เป็นบริษัทที่ประเมินคุณค่าที่ผลงาน มี KPI ที่ชัดเจน มีการเปิดโอกาส เปิดพื้นที่ Sandbox ให้ลองผิดลองถูก แต่กำหนดเพดานความเสียหายเอาไว้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยอิสระเกินไป เพราะบริษัทในภาพรวมจะเกิดผลกระทบด้วย และส่งเสริมพนักงานให้เติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานจากความสามารถ ไม่ได้ใช้ระบบอาวุโส

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/1015568/

5. Office สวย

ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมด 4 ข้อ บริษัทของเรายังไม่มี งั้นเอาแบบเร่งด่วน ทำได้ง่าย ๆ ที่สุดคือ ทำ Office ให้สวย ๆ เพราะเด็กรุ่นใหม่ชอบ Office สวย ๆ ดูดี ดูคูล เป็น Co-Working Space บรรยากาศการทำงานแบบรื่นรมย์สมฤดี

ซึ่ง Office สวยในที่นี้ เราไม่ต้องโคตรรวยก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่อลังการ แต่ขอให้มีแนวทางการตกแต่ง มีความเก๋ไก๋ สร้างความภูมิใจให้กับคนรุ่นใหม่ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ บรรยากาศผ่อนคลาย อาจจะเหมือนนั่งทำงานอยู่ในร้านกาแฟ เป็นต้น

6. ทำงานจากไหนก็ได้บนโลกใบนี้

ถ้าบางบริษัทไม่มี Office เป็นของตัวเอง หรือ Work from home เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน เหมือนกับที่ Google มีนโยบายคือ Work from anywhere คือจะทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์ แต่ในข้อนี้ก็ต้องยอมรับว่า อาจจะใช้ได้แค่ธุรกิจบางประเภทเท่านั้น เป็นธุรกิจประเภทออนไลน์ หรือสามารถประสานงานระหว่างกันได้ด้วยระบบออนไลน์

ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าหลาย ๆ คนในหลาย ๆ องค์กรก็มีความคุ้นชินกับการทำงานในรูปแบบนี้พอสมควรแล้ว เพราะสถานการณ์โควิดได้บังให้เราต้องเข้าสู่การทำงานที่ต้องเว้นระยะระหว่างกัน แทนการทำงานที่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์หรือทำงานแบบต้องเผชิญหน้ากันเหมือนแต่ก่อน

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/67818/

7. มีลูกค้าเป็นคนดัง (Testimonial)

การมีลูกค้าเป็นคนดัง หรือการได้ทำงานให้กับบุคคลมีชื่อเสียง หรือทำงานให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งผมเองก็มีน้องอยู่คนหนึ่งเขามาเล่าให้ฟังว่าที่เขาเลือกทำงานให้กับบริษัทนี้ เพราะเขาอยากจะได้เจอกับคนดัง ๆ ได้เจอกับดารา กับนักธุรกิจระดับประเทศ ระดับโลก เวลาเขาถ่ายรูปลงโซเชียว เพื่อน ๆ ก็จะตื่นเต้น และทำให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานโดยต้องปฏิสัมพันธ์กับคนเหล่านี้

8. ผลตอบแทนอย่างโหด (Benefits)

ถ้าอ่านมาทั้งหมด 7 ข้อแล้ว บริษัทเรายังหาจุดดึงดูดคนเก่ง ๆ ไม่ได้ เราก็ใช้วิธีที่เรียกว่า “เอาเงินแก้ปัญหา” ไปเลยก็ได้ คือให้ผลตอบแทนอย่างโหด แม้เราเป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่เราให้เงินเดือน หรือผลประโยชน์ตอบแทนดีกว่าบริษัทใหญ่ เช่น ให้วันหยุดเยอะกว่า, ให้ไปสัมมนาเรียนรู้ที่น่าสนใจ, พาไปเที่ยวหรูหรา, ให้ทุนการศึกษา เป็นต้น

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3823493/

9. บริษัทดูมีอนาคต (Solid future)

ถ้าตอนนี้บริษัทยังไม่ดี แต่อย่างน้อยพนักงานก็ต้องรู้สึกได้ว่าในอนาคตมันจะดี ซึ่งบริษัทที่ดูดีมีอนาคตจะต้องประกอบด้วย วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีภารกิจที่ท้าทาย มีเป้าหมายที่เป็นไปได้ มีรายได้ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทที่แม้วันนี้จะยังไม่ใหญ่โต แต่ดูแล้วว่ามีแววเจริญรุ่งเรือง คนเก่ง ๆ ที่มองการณ์ไกลเขาก็พร้อมที่จะมาทำงานด้วยในระยะยาว และเติบโตไปพร้อม ๆ กับบริษัท

10. มีระบบปลาเปลี่ยนน้ำ (Onboarding)

บริษัทจะต้องมีระบบ On boarding คล้าย ๆ กับเวลาปลาเปลี่ยนน้ำ ถ้าอยู่ดี ๆ เปลี่ยนน้ำเลย โดยไม่มีกระบวนการให้ปรับตัวก่อนปลาก็จะช็อค คนที่มาทำงานก็เหมือนกัน ถ้าหากไม่มีระบบให้คนที่มาใหม่ปรับตัวก่อน เขาก็จะช็อคกับวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน รู้สึกแปลก ๆ เป็นเหมือนส่วนเกินของบริษัท

ดังนั้น บริษัทต้องไม่ปล่อยให้คนที่มาใหม่เกิดการช็อคกับวัฒนธรรม เพราะยังไม่เข้าบริบท จึงต้องการระบบที่เอื้อให้คนที่มาใหม่ได้ปรับตัว

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3153199/

11. มีระบบการเรียนรู้ (Mentoring / Shadow ? On-the-job)

เป็นระบบการเรียนรู้ที่จะให้พนักงานใหม่ ติดตามพนักงานเก่า เป็นระบบพี่สอนน้อง หรือบางบริษัทจะระบบคัดเลือกพนักงานดีเด่น เขาก็จะส่งพนักงานใหม่ให้ไปเรียนรู้กับพนักงานดี ๆ เพราะพนักงานดีเด่นจะเป็นแม่พิมพ์ที่ดีในการถ่ายทอดสิ่งดี ๆ ให้กับพนักงานใหม่ได้ รวมถึงเมื่อพนักงานได้ไปเรียนรู้จากรุ่นพี่ดี ๆ เขาก็จะเกิดความประทับใจ รู้สึกดีกับการทำงาน รู้สึกดีกับองค์กร

หรือถ้าไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีเวลาให้เรียนรู้อะไรเลย อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีคู่มือในการทำงานให้ได้ศึกษา หรือมีขั้นตอนให้พนักงานใหม่ได้เรียนรู้ และยกระดับความสามารถของตัวเอง โดยแบ่ง Level ความยากง่ายของงานในระดับต่าง ๆ เช่น ระดับพนักงานฝึกงาน ระดับพนักงานทั่วไป ระดับพนักงานอาวุโส ซึ่งเราจะต้องบอกพนักงานได้ว่า ความสามารถในแต่ละระดับจะต้องทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เขารู้ว่าหมุดหมายแห่งการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองในแต่ละขั้นของเขาคืออะไร

และทั้งหมดนี้ก็คือ บริษัทเล็ก ๆ จะหาเด็กเก่ง ควรทำอย่างไร ซึ่งถือเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เราหาคนมาทำงานด้วยได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราไม่จำเป็นจะต้องทำให้ได้ในทุกข้อ แต่เราทำได้เพียงบางข้อ ก็เพียงพอที่จะดึงดูดคนเจ๋ง ๆ ให้มาร่วมงานกับเราได้แล้ว

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ปีหน้าจะทำอย่างไร

ไร้สาระสิ้นดี!!! ทำงานก็มีผลลัพธ์
แล้วทำไมต้องประจบเจ้านาย บ้าไปแล้ว
ทำไมไม่ให้ผลงานเป็นตัวตัดสินหละ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนที่เก่งคน
เก่งการนำเสนอ และเจ้านายรัก
ถึงมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น?

อ่านต่อ »

เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

ทำงานดีทั้งปี เจ้านายไม่เห็นผลงาน
เจ้านายไม่รู้ เจ้านายไม่เห็นความสำคัญ
เพราะไม่ตรงกับเป้าหมาย ทำให้ตายก็
ไม่ไปไหนซักที
เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

อ่านต่อ »

รับสิทธิพิเศษมั๊ย?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า

ลงทะเบียนตอนนี้ รับ E-Books ฟรี!!