สร้างคอนเท้นท์ยังไง ให้มีไอเดียใช้ได้ทั้งปี (ตอนที่ 1)

[xyz-ips snippet="Podcast"]

พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์

วิธีการทำคอนเท้นท์ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ถ้าหากเราเข้าใจโครงสร้าง เราก็จะสามารถทำซ้ำ และสามารถสร้างคอนเท้นท์เอาไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี และทุกวันนี้เรื่องการทำคอนเท้นท์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำการตลาด ว่าจะเป็นคอนเท้นท์ที่อยู่ใน Platform ไหนก็ตามของสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Instagram, TikTok เป็นต้น ในทุก ๆ ช่องทางเราสามารถที่จะเอามาทำการตลาดได้

ดังนั้น ในวันนี้ผมจะมาแบ่งปันเทคนิค สร้างคอนเท้นท์ยังไง ให้มีไอเดียใช้ได้ทั้งปี (ตอนที่ 1) ซึ่งจะเป็นการฉายภาพให้ทุกคนเห็นแนวทางในการสร้างสรรค์เนื้อหาสาระได้อย่างไรขีดจำกัด

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/1199607/

1. ข้อดีของกิจกรรมที่ทำ

เป็นรูปแบบง่าย ๆ ของการคิดคอนเท้นท์ นั้นก็คือการยกตัวอย่างของข้อดีในกิจกรรมที่ทำ เช่น

  • 10 ข้อดีของการออกกำลังกายตอนเช้า
  • 5 ข้อดีของการกินอโวคาโด
  • 7 ข้อดีของการทำแบบทดสอบ Identity Discovery

การบอกถึงข้อดีของกิจกรรมที่ทำ ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เราอยู่ จะเป็นแนวทางการสร้างคอนเท้นท์ที่เราสามารถจะนำมาใช้ เช่น ถ้าเราอยู่ในธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม เราอาจจะผู้ถึงข้อดีของการออกกำลังกาย ข้อดีของการกินอาหารคลีน แล้วไม่จำเป็นจะต้องเป็นคอนเท้นท์ที่จะขายของเพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถสร้างคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์สำหรับทุกคน และสามารถนำมาใช้ได้ตลอดทั้งปี

ผมแนะนำให้เราทำคอนเท้นท์ที่เรียกว่า Evergreen หรือคนเท้นท์ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดปี ตลอดชาติ ผมไม่แน่นำให้ทำคอนเท้นท์ที่เป็น Newsjacking คือเป็นคอนเท้นท์ที่วิ่งตามกระแส ถ้าข่าวอะไรดังก็ทำออกมาแล้วติด Hashtag เพื่อให้มันขึ้น Feed ซึ่งมันจะใช้ได้แค่ครั้งเดียว เช่น คอนเท้นท์เปิดตัวไอโฟน คอนเท้นท์เกาะกระแสลิซ่า เหล่านี้มันคือเค้นเท้นที่ใช้ได้แค่แป๊บเดียว

2. สิ่งที่ควรระวัง….

ถือเป็นรูปแบบการเขียนคอนเท้นท์ที่เรียกร้องความสนใจให้กับผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น

  • เช่น 5 สิ่งที่ควรระวังก่อนรับพนักงานใหม่ ไม่งั้นถึงล้มละลาย
  • เช่น 7 สิ่งที่เกิดความเสียหาย ถ้าไม่สร้างแบรนด์ให้ชัดเจน
  • สิ่งที่จะเป็นอันตรายถ้าคุณขับรถยนต์อัตโนมัติ

ซึ่งคอนเท้นท์ประเภทนี้ถือเป็นคอนเท้นท์ที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความกลัวในใจ ซึ่งตามธรรมชาติของสมองมนุษย์นั้นจะมีความตื่นตัว เมื่อต้องเผชิญกับความไม่ปลอดภัย เพื่อให้เราสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายต่าง ๆ ได้

ดังนั้น เวลาที่เราทำคอนเท้นท์ในรูปแบบ “สิ่งที่ควรต้องระวัง…” ก็จะเป็นคอนเท้นท์ที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี

3. สิ่งที่ต้องทำ

เป็นรูปแบบคอนเท้นท์ที่บอกว่าผู้อ่านควรจะทำอะไร เช่น

  • 5 สิ่งที่คุณต้องทำก่อนลาออกจากงานประจำ
  • 3 สิ่งที่คุณต้องทำก่อนเปลี่ยนมือใหม่ไม่งั้นภาพลับรั่วไหล
  • 7 สิ่งที่จะต้องทำ ก่อนที่คุณจะซื้อเครื่องสำอางใหม่
  • 5 สิ่งที่ต้องทำเพื่อการออมเงินที่ได้ผลลัพธ์

ซึ่งเราควรเลือกหัวข้อต่าง ๆ ให้เหมาะสม หรือสอดคล้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่เราทำอยู่

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3771074/

4. สรุปความรู้

เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการที่เราจะสร้างคอนเท้นท์ นั้นก็คือการสรุปความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและเข้าถึงเนื้อหาสาระต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น

  • สรุป ความรู้ประจำสัปดาห์ของนักการตลาด
  • สรุป ความเคลื่อนไหวข่าว Crypto ประจำสัปดาห์
  • สรุป สินค้าขายดีใน Lazada สำหรับแม่ค้ามือใหม่

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เราสามารถนำมาทำคอนเท้นท์ได้เยอะมาก เพียงแต่ว่าการทำคอนเท้นท์เราจะต้องเป็นคนช่างสังเกต และไม่ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นมันผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ถ้าเราขาดความช่างสังเกต ไอเดียเราก็จะไม่เกิด

5. คาดการณ์อนาคต

คอนเท้นท์ประเภทนี้ถือเป็นอีกหนึ่งคอนเท้นท์ที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นการบอกในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่อยู่ในจิตสำนึกของมนุษย์ นั้นก็คือการอยากรู้อนาคต เช่น

  • โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลังโควิดผ่านไปแล้ว
  • คาดการณ์อนาคตร้านอาหารโดย คุณต่อเพนกวิน Eat Shabu
  • คาดการณ์ชะตาเหรียญ Alt Coin ก่อนสิ้นปี ฟันธง !!!

ส่วนใหญ่ คอนเท้นท์คาดการณ์อนาคตจะมาจากคนที่มีความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรมนั้น ๆ และมักจะทำกันช่วงปลาย ๆ ปี เพื่อออกคอนเท้นท์พยากรณ์ว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าใครเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่าง ๆ แล้วมาทำคอนเท้นท์พวกนี้ ก็มักจะได้รับความสนใจจากผู้อ่านเป็นพิเศษ

6. โปรโมทเทศกาล

ประเทศไทยมีเทศกาลเยอะมาก มันเป็นการง่ายมาที่ใน 1 ปี เราจะเปิดปฏิทินขึ้นมาดูว่า ในแต่ละเดือนจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองอะไรบ้าง และเราสามารถที่จะสร้างคอนเท้นท์เหล่านี้ล่วงหน้าเอาไว้ได้เลย เช่น

  • 5 ไอเทม ห้ามขาดในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
  • “เช็คก่อนใช้” โปรแกรมตรวจรถก่อนหน้าฝน
  • Black Monday ซื้อ Go Pro Hero 10 ก่อนลุยหน้าร้อน

ซึ่งคอนเท้นท์โปรโมทเทศกาลนี้ ถ้าเราเขียนดี ๆ มันสามารถใช้ได้ทุกปีเลย เพราะเทศกาลต่าง ๆ มันก็จะเวียนมาซ้ำ ๆ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิมมากนัก

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3379934/

7. เบื้องหลังการทำงาน

ก็เป็นคอนเท้นท์ที่กระตุ้นความอยากรู้ กระตุ้นความสงสัยของมนุษย์ได้เป็นอย่าง เพราะบางครั้งคนเราก็อยากรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ หรือเวลาที่คนอื่นเขาทำงาน เบื้องหลังมันเป็นอย่างไร เช่น

  • เบื้องหลังการเทรดหุ้นให้ได้วันละ 3,000 บาท
  • เบื้องหลังการ Live ขายของให้ได้วันละ 100,000 บาท
  • เบื้องหลังการมีเงินเดือนหลัก 100,000 ก่อนวัย 30

8. ทำ VLOG การซื้อสินค้า

Vlog มาจากการรวมกันของคำว่า Video + Blog เพื่อให้ความหมายในภาพรวมว่าคือการเล่าเรื่องราว หรือนำเสนอเรื่องต่าง ๆ ในรูปแบบของวีดีโอ ซึ่งเนื้อหานั้น ก็มีทั้งแบบที่เป็นสาระ ความรู้ บันเทิง การรีวิว เช่น

  • เดินซื้อของตกแต่งสตู่ดิโอไลฟ์ขายเสื้อผ้า
  • วิธีเดินซื้อของกินแบบประหยัดที่ตลาดไท
  • ตามล่าหา Play Station 5
  • ไลฟ์ต่อคิวซื้อ iPhone 13

9. รายการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราสามารถสร้างคอนเท้นท์ให้มีความน่าสนใจขึ้นมาได้เช่นกัน โดยการสัมภาษณ์นี้เราอาจจะไม่ต้องใช้ความรู้ ความชำนาญในระดับสูง แต่อาศัยการเป็นคนที่รู้จักฟัง รู้จักจับประเด็น ช่างสังเกต ก็สามารถที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการได้แล้ว ตัวอย่างเช่น

  • สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายสินค้าราคา 100 ล้าน
  • สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวด้านรถยนต์ไฟฟ้า

และถ้าเป็นไปได้ ในการทำรายการสัมภาษณ์นั้น เราไม่ควรเลือกผู้เชี่ยวชาญคนเดิมมาสัมภาษณ์ซ้ำบ่อย ๆ เพราะมันจะทำให้เกิดความไม่น่าสนใจ และเนื้อหา หรือทัศนคติที่ได้ก็จะไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร ดังนั้น ควรเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ อาจจะไม่ใช่คนดังก็ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ฟัง และจะมีผู้ติดตามรายการของเราเพิ่มขึ้นเอง

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/2872418/

10. แสดงวิธีทำทีละสเต็ป

เป็นการนำเสนอคอนเท้นท์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีผู้คนสนใจ นั้นก็คือคอนเท้นท์ประเภทที่เกี่ยวข้องกับการสอน หรือแนะนำวิธีทำแบบทีละสเต็ป เช่น

  • วิธีการตัดต่อบนแอพ Capcut
  • วิธีการตกบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอ
  • วิธีการใช้แอพพลิเคชั่นต่าง

ซึ่งมีเรื่องราวต่าง ๆ เยอะแยะมากมายที่เราสามารถหยิบยกขึ้นมาสอน ขึ้นมาแนะนำวิธีการใช้งานให้กับผู้คนได้รับรู้

11. รีวิวสินค้า

เป็นคอนเท้นท์อีกรูปแบบหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เพราะเวลาที่คนจะตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่ ๆ เขาก็จะต้องหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจพอสมควร โดยเฉพาะสินค้าที่หายาก หรือมีราคาแพง

ดังนั้น เราสามารถที่จะสร้างคอนเท้นท์รีวิวสินค้า เช่น

  • รีวิว กล้อง Sony Z EV10
  • รีวิว อาหารร้าน Bluetamp
  • รีวีว Pool Villa 6 ดาวในเกาะกูดแบบเจาะลึก

แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าการรีวิวสินค้าที่เป็นกระแส มันมีข้อดีคือได้รับความสนใจในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อมีสินค้าตัวใหม่ ๆ ออกมา สินค้าที่เราเคยรีวิวไปก็จะไม่ได้รับความสนใจอีกเลย ยกเว้นจะเป็นสินค้าที่มีวงรอบค่อนข้างยาว เช่น รีวิวโรงแรม ร้านอาหารเปิดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในกระแสประมาณ 2-3 ปี

12. แนะนำสินค้าขายดี หรือบริการขายดีของร้านคุณ

เป็นรูปแบบการสร้างเคนเท้นท์ที่แนะนำสินค้าขายดีประจำร้าน เช่น

  • 5 สินค้าขายดีประจำสัปดาห์นี้
  • สินค้าขายดีประจำจังหวัดอยุธยา
  • 10 สินค้าของฝากจากญี่ปุ่นที่ขายดีตลอดกาล

ถ้าใครเป็นนักสร้างคอนเท้นท์สายท่องเที่ยว ก็เหมาะมากที่จะทำเนื้อหาออกมาในรูปแบบนี้

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/906982/

13. สิ่งที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดในอุตสาหกรรมของคุณ

เป็นการนำเสนอรูปแบบเนื้อหาของเรื่องที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิด เช่น

  • ไม่ต้องมีความรู้ แค่อ่านมาเฉยๆ ก็เปิดคอร์สขายได้แล้ว
  • ไม่เคยทำธุรกิจนี้มาก่อน เอเจนซี่จะเข้าใจได้ยังไง
  • ทำสัมมนาขายบัตรใบละ 5,000 ใช้แค่ไมค์ กำไรฉิบหาย

ซึ่งเป็นการเปิดมุมมองที่ทำให้ผู้อ่านรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก หรือแก้ไขความเข้าใจที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดให้เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง

14. กรณีศึกษาต่างๆ

เป็นรูปแบบการนำเสนอเทคเท้นท์ที่เป็นกรณีศึกษา เช่น

  • กรณีศึกษาการสร้างแบรนด์ให้ดังของแบรนด์เพนนี
  • กรณีศึกษาของการซื้อ Bitcoin แบบ DCA แล้วขาดทุนวอดวาย
  • กรณีศึกษา ทำธุรกิจขาดทุน 10 ล้าน แล้วสำเร็จได้ยังไง

15. เปรียบเทียบสินค้า

เช่น

  • เปรียเทียบ Samsung Galaxy Fold 3 VS iPhone 13 Pro Max
  • เปรียบเทียบระบบ CRM ของ Sales Force กับ. Hubspot
  • ปรียบเทียบลิปสติกแบรนด์ A กับ แบรนด์ B

ทั้งหมดนี้ก็คือ สร้างคอนเท้นท์ยังไง ให้มีไอเดียใช้ได้ทั้งปี (ตอนที่ 1) ซึ่งผมเองก็ใช้เทคนิคทั้ง 15 ข้อเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ถ้าเรารู้เทคนิคเหล่านี้แล้ว เราลองเจาะเข้าไปในอุตสาหกรรมที่เราทำอยู่ ผมว่าอย่างน้อยเราจะได้เทคนิคละ 3 เรื่องแน่นอน หรืออย่างน้อยเราจะได้คอนเท้นท์ถึง 45 เรื่องนั้นเอง

และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผมยังมี สร้างคอนเท้นท์ยังไง ให้มีไอเดียใช้ได้ทั้งปี (ตอนที่ 2) ซึ่งทุกคนสามารถที่จะไปติดตามอ่านกันได้เลย

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ปีหน้าจะทำอย่างไร

ไร้สาระสิ้นดี!!! ทำงานก็มีผลลัพธ์
แล้วทำไมต้องประจบเจ้านาย บ้าไปแล้ว
ทำไมไม่ให้ผลงานเป็นตัวตัดสินหละ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนที่เก่งคน
เก่งการนำเสนอ และเจ้านายรัก
ถึงมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น?

อ่านต่อ »

เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

ทำงานดีทั้งปี เจ้านายไม่เห็นผลงาน
เจ้านายไม่รู้ เจ้านายไม่เห็นความสำคัญ
เพราะไม่ตรงกับเป้าหมาย ทำให้ตายก็
ไม่ไปไหนซักที
เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

อ่านต่อ »

รับสิทธิพิเศษมั๊ย?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า

ลงทะเบียนตอนนี้ รับ E-Books ฟรี!!