หาเงินจากที่ไหนก็ได้ ถ้าเข้าใจ Global Mindset

[xyz-ips snippet="Podcast"]
พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์

คำว่า Global Mindset มาจากคำว่า Global citizen หมายถึง พลเมืองโลก หรือการที่เรารู้สึกว่าเราเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบนโลกใบนี้ โดยไม่ได้เอาเรื่องของเชื้อชาติ เขตุแดน มาเป็นเส้นแบ่งอีกต่อไป แต่เรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก ซึ่งการที่เราเป็นพลเมืองของโลกนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดใจยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง จึงทำให้เราสามารถเข้าวิธีของคนที่เป็นชาวต่างชาติได้ และเราจะเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีร่วมกับชาวต่างชาติทั่วโลก เช่น ถ้าหากเกิดไฟป่าที่ออสเตรีย เราก็จะมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว เพราะมันจะก่อให้เกิดผลกระทบกับเราได้เหมือนกัน และตัวเราเองก็จะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรจะแก้ไข

สำหรับคนไทยนั้นเรื่อง Global Mindset หรือ Global citizen ถือเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ เพราะว่าเรามีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง ซึ่งเกิดจากการที่เราได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/7411982/

Global Mindset มีประโยชน์ต่อเราอย่างไรบ้าง

1. ทำเงินจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้

ที่ผ่านมาหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินผมกล่าวถึงกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า Digital Nomad ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่มีรูปแบบวิธีชีวิตโดยการพกพาคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง กล้อง 1 ตัว และเดินทางไปทั่วโลก ทำงานอยู่ที่ริมชายหาด ตอนเช้าตื่นมาไปวิ่ง สาย ๆ ทำงาน ตอนบ่ายก็ออกไปเล่นกระดานโต้คลื่น ตอนกลางคืนก็ไปกินดื่มอยู่ในบาร์ ซึ่งคนพวกนี้จะทำงานหรือทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์

ซึ่งก็เป็นตัวอย่างของ Global citizen ที่ทำให้เราเห็นว่า เป็นการทำงานที่ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องอยู่ในประเทศของตัวเอง หรือหาเงินจากประเทศของตัวเอง แต่จะเป็นรูปแบบของการทำงาน ทำเงิน จากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้

ผมเชื่อว่ามนุษย์เกือบจะทุกคน มีความต้องการอิสรภาพ และการที่เราสามารถเลือกที่จะอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ก็เป็นอิสรภาพอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตเช่นกัน

ดังนั้น Global citizen จะเป็นสิ่งที่มาปลดปล่อยทุกคนให้เป็นอิสระจากรูปแบบวิถีการทำงานเดิมที่ผูกติดอยู่กับสถานที่และเวลา

2. มีเพื่อนที่สนใจเรื่องเดียวกันจากทั่วทุกมุมโลก

เราจะได้พบเจอคนที่มีความสนใจคล้ายกับเรา และสามารถเป็นเพื่อนกันได้แม้จะอยู่กันคนละมุมโลก ซึ่งถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อน กว่าที่เราจะเจอคนที่ชอบอะไรแบบเดียวกับเรา คิดเหมือนกันกับเรา มันเป็นอะไรที่หายากมาก และส่วนใหญ่เราจะหาเพื่อนแบบนี้ได้จากโรงเรียน จากที่ทำงาน หรือจากละแวกบ้าน แต่เราไม่สามารถหาเพื่อนที่มีรสนิยมเดียวกันจากคนต่างพื้นที่

แต่หลังจากการเกิดขึ้นของอินเตอร์ ก็ทำให้เรามีโอกาสได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ บนโลกใบนี้ง่ายขึ้น และสามารถเกิดชุมชนออนไลน์ที่มีจุดร่วมของความสนใจเดียวกัน ดึงดูดคนเหมือน ๆ กันเข้ามาหากันได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะอยู่ไกลกันคนละมุมโลกก็ตาม

3. เข้าถึงทรัพยากรที่ห่างไกลได้ง่ายมากขึ้น

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า การเกิดมาแบบไม่มีเงิน มันคือความยากลำบาก และเป็นอุปสรรค์ในการที่เราจะเริ่มต้นในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมันก็อาจจะจริง แต่มันไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่แม้ว่าไม่มีเงิน แต่ก็สามารถสร้างรายได้จากอากาศ คนพวกนี้จะหาวิธีในการทำธุรกิจให้ได้แม้ว่าจะไม่มีเงินทุนก็ตาม

ถ้าเรามี Global Mindset เราจะมองว่าโลกใบนี้คือทรัพยากรของเรา โดยโจทย์ของเราคือเราจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้มา ซึ่งในต่างประเทศก็มีกลุ่มคนที่ไม่มีเงินแต่อยากจะทำธุรกิจ เขาก็มีการไปขอทุนสนับสนุน เช่น ในเว็บไซต์ Kickstarter เป็นตัวกลางในการจะทำให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นโครงการได้ คนที่จะทำธุรกิจก็จะส่งรายละเอียดเข้าไปว่า สินค้าที่เขาคิดมันดีอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำสินค้าตัวนี้ ก็จะมีการโชว์รูป โชว์สินค้าต้นแบบว่ามันทำงานอย่างไร เสร็จแล้วก็จะมีคนเข้ามาร่วมลงทุน

ดังนั้น แม้ว่าเราไม่มีเงินก็ตาม เราก็ยังสามารถที่จะทำธุรกิจได้ และสามารถเชื่อมต่อกับ Angel investor จากต่างประเทศได้ ผ่านชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเรื่องของการขาดแคลนเงินทุนจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ตราบใดที่เรายังมีไอเดีย มีสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/34013/

ทำอย่างไรเพื่อให้เรามี Global Mindset

1. เรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ให้มากขึ้น

คนทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง ถ้าเราสนใจที่สร้างรายได้จากทั่วทุกมุมโลก เราจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม เมื่อเราได้มีโอกาสเรียนรู้ความหลากหลายบนโลกใบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เราจะไม่ตัดสินใจโดยใช้พื้นฐานทางวัฒนธรรมของตัวเองเป็นเกณฑ์ เพราะคนในแต่ละพื้นที่ต่างก็มีบรรทัดฐานทางความคิด ทางสังคม ที่แตกต่างกัน ยิ่งเราเห็นโลกมาขึ้นเท่าไหร่ เราจะเข้าใจได้ทันทีเลยว่าความแตกต่างคือเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้ และไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะไปตัดสินว่าอะไรดี หรืออะไรไม่ดี เพียงแค่วิธีคิดของคนในสังคมนั้น ไม่เหมือนกับคนในสังคมที่เราเติบโตขึ้นมา

2. เรียนรู้ที่จะมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก

ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกอย่างลึกซึ้งแล้ว เราก็จะพบว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แม้ว่ามันจะอยู่ห่างจากเรามากก็ตาม แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า “เด็ดดอกไม้ สะเทือนดวงดาว” คือผลกระทบมันจะเกิดขึ้น แล้วก็จะกระทบกับสิ่งต่าง ๆ และส่งผ่านปรากฏการณ์ต่อมาเป็นทอด ๆ จนส่งผลมาถึงเราในที่สุด

ดังนั้น เราควรที่จะมีส่วน เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโลกใบนี้ ให้ไปในทิศทางที่ควรจะเป็น เช่น สภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือเกิดการละลายเยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้หมีขั้วโลกต้องว่ายน้ำเป็นเวลานานจนถึงกับหมดแรงและจมน้ำตายในที่สุด เพราะหาพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็งในไม่ได้แล้ว ซึ่งการที่เราแม้ว่าจะอยู่ในประเทศไทย แต่ถ้าเราตระหนักถึงปัญหานี้ และลดปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนได้ สิ่งที่เราทำก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยชีวิตหมีขั้วโลกได้เช่นกัน

ซึ่งทัศนคติแบบนี้ คือพื้นฐานของคนที่จะเป็น Global citizen หรือเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก

3. เดินทางให้มากขึ้น อยู่กับคนท้องถิ่นให้นานขึ้น

การที่เราท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ จะทำให้เราได้เห็นโลกมากขึ้น ได้เห็นการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจที่หลากหลาย ผมเป็นคนที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศมาก และชอบที่จะสังเกตและดูวิธีการทำเงินใหม่ ๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเราจะเรียนรู้เรื่องพวกนี้ได้ในเชิงลึก ถ้าเราเรียนรู้มันผ่านการไปพบปะกับผู้คนในท้องถิ่น

ซึ่งจะแตกต่างจากการที่เราซื้อทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะมันจะเป็นการเที่ยวแบบที่มีการจัดวางให้เราเอาไว้หมดแล้ว และเราจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นวิถีชีวิตจริง ๆ ของคนในประเทศนั้น ๆ

https://www.pexels.com/th-th/photo/7412068/

4. ช่างสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น…และถามคำถามว่าทำไม

การที่เราถามว่าทำไมถึงเกิดสิ่งนี้ขึ้น มันจะเป็นการพาเราค้นไปหาต้นเหตุ และทำให้เราเข้าใจปรากฏการณ์นั้น ๆ ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น เช่น ทำไมคนจีนถึงต้องพูดคุยสนทนากันด้วยเสียงดัง พอเราถามและค้นหาคำตามเราก็จะค้นพบว่ามันมีสาเหตุมาจากภาวะทางประวัติศาสตร์ ที่ในยุคหนึ่งการพูดคุยเบา ๆ หรือกระซิบกัน ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ดังนั้น ถ้าใครไม่อยากถูกรัฐบาลเพ่งเล็ง เขาก็จะต้องคุยดัง ๆ เพื่อแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็ส่งผ่านมาจนกลายเป็นลักษณะเฉพาะของคนจีน ที่จะต้องพูดเสียงดัง

ถ้าเราไม่ถามหาคำตอบว่าทำไมคนจีนถึงพูดจากันเสียงดัง เราจะไม่มีวันรู้ที่มาที่ไปเลย เราก็อาจจะแค่เข้าใจอย่างตื้นเขินว่าคนจีนเขาก็พูดเสียงดังกันแบบนี้แหละ ซึ่งมันจะไม่ใช่การที่เรารู้จักคนในประเทศนั้นได้อย่างลึกซึ้ง ถ้าเราเข้าใจลักษณะนิสัย เขาใจพื้นฐานทางความคิดของคนต่างชาติในแต่ละประเทศ เราก็สามารถที่จะดิวและทำงานร่วมกับเขาได้อย่างไม่แปลกแยก

5. เปิดมุมมองใหม่

พอเราได้เรียนรู้เรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ที่มีความแตกต่างหลากหลายของแต่ละประเทศแล้ว เราเองก็ควรจะมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศนั้น ๆ ผ่านแว่นตาของพวกเขา

การที่เราเปิดหู เปิดตา และเปิดใจ จะทำให้เรารู้ว่าทำไม่คนประเทศนี้ ถึงมีลักษณะแบบนี้ และโอกาสในการทำธุรกิจของเรามันมีตรงไหนบ้างที่เป็นไปได้ในประเทศนั้น ๆ หรือกลุ่มคนในประเทศนั้นมีการให้คุณค่ากับเรื่องอะไรบ้าง ที่เราสามารถจะนำเอามาใช้ทำเงินได้ เช่น ต้นไม้บางต้นที่เราเกิดขึ้นสองข้างทาง และกลายเป็นวัชพืชของประเทศไทย แต่มีคนไทยบางคนมองเห็นโอกาส และนำมันไปจัดลงกระถางสวย ๆ แล้วขายให้ชาวต่างชาติในราคาสูง และขายดีด้วย เพราะถือเป็นของแปลกของหายากที่ชาวต่างชาติมีความต้องการ

6. เงินเป็นของคุณ แต่ทรัพยากรเป็นของโลกใบนี้

การที่เรามองเห็นโลกใบนี้ในภาพรวม เราจะเข้าใจสภาวะที่เกิดขึ้นในแง่ของทรัพยากรของโลกใบนี้ด้วย และเราจะกินจะใช้อะไร เราจะทำมันอย่างรู้คุณค่า

เคยมีกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ มีนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มหนึ่ง ไปเที่ยวที่เยอรมันแล้วสั่งอาหารมารับประทานเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่ากินไม่หมด พอกินไม่หมดที่ร้านก็ไม่ยอมให้เช็คบิล ไม่ยอมให้ออกจากร้าน จนกว่าจะกินสิ่งที่สั่งมาให้หมด ด้วยเหตุผลที่ว่า “เงินเป็นของคุณ แต่ทรัพยากรเป็นของโลกใบนี้” หมายความว่า เวลาที่เรามีเงิน เราจะสั่งอะไรมากินก็ทำได้ ไม่มีใครว่าเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเราสั่งอาหารมาแล้วกินไม่หมด มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว เพราะมันจะก่อให้เกิดผลเสียต่อโลกในภาพใหญ่ ทั้งเกิดขยะ เกิดการสูญเสียโอกาสในการที่จะเก็บวัตถุดิบเหล่านี้ไปทำอาหารให้คนอื่นกิน เกิดการไม่คุ้มค่าของหยาดเหงื่อแรงงาน อีกทั้งปัจจัยตั้งต้นต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเป็นอาหารซึ่งถูกปรุงมาวางอยู่บนโต๊ะ แต่สุดท้ายก็ต้องมากวาดมันทิ้งไปเฉย ๆ เพราะมีคนสั่งมาแล้วกินมันไม่หมด

ซึ่งจะเห็นได้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอย่างที่เราเข้าใจอีกแล้ว แต่มันก่อให้เกิดผลเสียกับโลก ก่อให้เกิดผลเสียกับคนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก

https://www.pexels.com/th-th/photo/3769138/

7. เรียนรู้ภาษาใหม่อย่าจำกัดโอกาสไว้แค่ความรู้ในประเทศไทย

เราควรจะมีความภาคภูมิใจในการมีภาษาประจำชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้ภาษาใหม่ด้วย เพราะภาษาไทยอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เราควรเรียนรู้ที่จะพูดภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่อให้สามารถเข้าถึงคลังความรู้ของโลก รวมถึงยังเป็นการทลายกำแพงระหว่างบุคคล เพราะถ้าหากว่าเราสามารถพูดภาษาของชาวต่างชาติได้ มันจะเป็นการติดต่อสื่อสารที่ได้รับความไว้วางใจ หรือสนิทสนมง่ายขึ้น

คล้าย ๆ กับเวลาที่ฝรั่งมาอยู่ประเทศไทยแล้วเขาสามารถพูดภาษาไทยได้บ้าง อาจจะแค่พูดได้นิด ๆ หน่อย ๆ ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง แต่คนไทยก็จะรู้สึกเอ็นดู และรู้สึกประทับใจ อยากคุยด้วย อยากรู้จัก

ดังนั้น วันนี้ถ้าเรายังพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ ก็ยังไม่สายที่จะเรียนรู้ แต่ถ้าใครพูดภาษาต่างประเทศได้แล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณเข้าถึงโอกาสที่คนไทยจำนวนมากในเวลานี้ยังไม่สามารถจะเข้าถึงได้

8. ความคิดที่สามารถเชื่อมโยง

โลกใบนี้ ในเวลานี้ มีคนมากมายกำลังแก่งแย้งทรัพยากรกัน ถ้าประเทศไหนมีความเข้มแข็งกว่า เขาก็จะดึงทรัพยากรไปสู่ประเทศของตัวเอง ซึ่งก็เป็นสาเหตุในการแข่งขันกันทางด้านแสงยานุภาพของกองกำลังทางทหาร เกิดการวางยุทธศาสตร์การทูต เกิดการวางยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค เป็นต้น

และถ้าหากคนไทยไม่เข้าเรื่องพวกนี้ โดยสาละวนอยู่กับเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศของตัวเอง ก็ถือว่าทักษะเพียงเท่านี้ไม่สามารถจะอยู่ได้แล้วในโลกยุคใหม่

รวมถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ มันเป็นผลที่เกิดมาจากเหตุปัจจัยมากมาย ถ้าเรามีทักษะในการคิดแบบเชื่อมโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผล เราก็จะสามารถเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงยังสามารถที่จะพยากรณ์แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

9. มีเพื่อนต่างอาชีพ ต่างเชื้อชาติ ต่างความเชื่อ

เพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ แต่มันมีเทา ๆ ด้วย และผมอยากบอกว่า คนชั่ว คนดี มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะไปตัดสินใครได้โดยสมบูรณ์ เพราะแม้แต่นิยมความดี ความชั่วของคนแต่ละประเทศ แต่ละศาสนาก็ยังมีความแตกต่างกันเลย

ดังนั้น เราควรที่จะมองเห็นความจริงของมนุษย์ ว่ามันคือความแตกต่าง การกำหนดคำนิยมเรื่องความดีความชั่ว เรื่องศาสนาความเชื่อ และบรรทัดฐานทางศีลธรรม เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เป็นการจัดระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดการเบียดเบียนกัน

ดังนั้น ในการที่เราจะเป็น Global citizen ได้ เราจะต้องมีค่านิยมที่ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความเชื่อได้ ซึ่งคนที่ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความเชื่อได้นั้น เขาจะมีลักษณะของการยึดถือบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่เป็นสากล โดยอาจจะไม่ได้ยึดติดอยู่แค่ในกรอบของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง เพื่อไปตัดสินว่าศาสนาอื่นว่าไม่ดี แต่เขาจะสามารถอยู่ร่วมกับศาสนาที่แตกต่างได้ ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เพราะโลกในยุคที่ผ่านมามันมีความขัดแย้งกันมากพอแล้ว

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/2451568/

และทั้งหมดนี้ก็คือ หาเงินจากที่ไหนก็ได้ ถ้าเข้าใจ Global Mindset ซึ่งเนื้อหาในตอนนี้ถือเป็นการปูพื้นฐานให้เราเข้าใจเรื่องราวของ Global Mindset ในภาพรวม โดยในบทต่อไปผมจะอธิบายลงลึกว่า Global Mindset จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจไทยไปได้อย่างไร และเราเองที่เป็นคนที่ทำงานอยู่ในหลากหลายสาขาอาชีพ เราจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกที่สง่างามได้อย่างไร

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ปีหน้าจะทำอย่างไร

ไร้สาระสิ้นดี!!! ทำงานก็มีผลลัพธ์
แล้วทำไมต้องประจบเจ้านาย บ้าไปแล้ว
ทำไมไม่ให้ผลงานเป็นตัวตัดสินหละ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนที่เก่งคน
เก่งการนำเสนอ และเจ้านายรัก
ถึงมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น?

อ่านต่อ »

เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

ทำงานดีทั้งปี เจ้านายไม่เห็นผลงาน
เจ้านายไม่รู้ เจ้านายไม่เห็นความสำคัญ
เพราะไม่ตรงกับเป้าหมาย ทำให้ตายก็
ไม่ไปไหนซักที
เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

อ่านต่อ »

รับสิทธิพิเศษมั๊ย?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า

ลงทะเบียนตอนนี้ รับ E-Books ฟรี!!