โมเดลธุรกิจมีกี่แบบ แล้วตัวคุณควรเลือกแบบไหน ?

[xyz-ips snippet="Podcast"]
พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์

ผมเองได้มีโอกาสพบเจอกับผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น SME ที่พึ่งจะก่อร่างสร้างตัว หรือที่ทำมาแล้วหลายปี รวมไปถึงที่เป็นธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งปรากฏการณ์ที่ผมเห็นนั้น ก็ทำให้เข้าใจวงจรของการเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง นั้นก็คือเจ้าของธุรกิจเลือกโมเดลธุรกิจไม่เหมาะสมกับตัวเอง

ดังนั้น ในวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของโมเดลธุรกิจ 8 รูปแบบ พร้อมกับการตัวอย่างของธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า โมเดลทางธุรกิจไม่ได้มีแค่ 8 แบบ แต่มีรูปแบบเยอะแยะหลากหลายมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สำหรับในการนำเสนอครั้งนี้ ผมได้สะท้อนภาพมาจากเรื่องของ Personality ที่เป็นวิธีการคิดของมนุษย์แต่ละคน ซึ่งแบ่งความชำนาญออกเป็น 8 แบบ ดังนี้

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3913031/

1. เน้นนวัตกรรม

สำหรับโมเดลธุรกิจรูปแบบแรก คือธุรกิจในลักษณะที่ชอบคิด ชอบสร้างสรรค์ ชอบสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้น เจ้าของธุรกิจที่จะมาใช้โมเดลนี้ พื้นฐานจะต้องเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบคิดและนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ รวมถึงชอบเรื่องนวัตกรรม

ซึ่งตัวอย่างที่เราจะเห็นได้ชัด ๆ ในธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็คือ บริษัทด้านสถาปนิกต่าง ๆ เช่น บริษัท DWP ซึ่งถือเป็นบริษัทรับออกแบบอาคารที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกเลยทีเดียว และมีผลงานการสร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยม

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/7661590/

2. เน้นแบรนด์

การสร้างแบรนด์ อาจจะฟังดูแล้วเป็นเรื่องธรรมดา เพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่สำหรับธุรกิจที่เอาเรื่องนี้เป็นตัวนำ เขาจะมีลักษณะที่โดดเด่น คือเน้นเรื่องการสื่อสารแบรนด์ ซึ่งเจ้าของธุรกิจที่ใช้โมเดลนี้ จะชอบนำเสนอตัวตน ชอบการได้รับความสนใจ และจดจำ

ซึ่งผมขอยกตัวอย่างของ บริษัท แสนสิริ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเขามีความโดดเด่นเรื่องการสื่อสารแบรนด์มาก และเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่า หรือสร้างรายผลกำไร อันเป็นดอกผลมาจากการสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในเชิงการตลาดทีเดียว

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/3856027/

3. เน้นชุมชน

โมเดลธุรกิจในรูปแบบนี้ จะเน้นเรื่องคนเป็นสำคัญ เน้นให้คนจำนวนมาก ๆ มาพบกัน เน้นการสร้างสังคม สร้างชุมชน ซึ่งเจ้าของธุรกิจที่จะใช้โมเดลนี้ จะต้องชอบการพบเจอผู้คน ชอบการรวมกลุ่ม การสร้างทีม การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยจำนวนคนหมู่มาก

ซึ่งผมขอยกตัวอย่าง บริษัท Winner Estate ซึ่งถือเป็นบริษัทที่เรียกตัวเองว่าเป็น “วิทยาลัย ของนายหน้า” เพราะจะทำธุรกิจเกี่ยวกับการฝึกอบรมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นหลักสูตรที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการด้วย ซึ่งบริษัทนี้จะเคยอบรมคนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นคน และมีการสร้างชุมชนของคนที่เข้ามาเรียน และออกไปทำงานเป็นนายหน้า ซึ่งจะมีการสร้างความร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มก้อนของนายหน้าด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเข้มแข็งมาก

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/5668859/

4. เน้นต่อรอง

โมเดลนี้ จะเน้นที่การดิวธุรกิจแบบมีจำนวนมาก ๆ เป็นการซื้อขายที่ใช้ปริมาณเป็นตัวนำ คือขายให้ได้จำนวนครั้งละมาก ๆ เน้นการหาพันธมิตรที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่เน้นพันธมิตรที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเจ้าของธุรกิจในโมเดลนี้ จะต้องมีความเป็นนักเจรจา นักต่อรอง มีความเป็นนักสื่อสาร ที่สามารถสร้างผลประโยชน์มหาศาลจากการเจรจาต่อรอง

บริษัท ที่ใช้โมเดลนี้ก็เช่น บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ซึ่งจะเน้นการทำธุรกิจแบบมีปริมาณเยอะ ๆ จากการพูดคุยแค่ไม่กี่ครั้ง จะเป็นนายหน้าลักษณะที่ซื้อขายคอนโดทีเดียวทั้งตึก เป็นพัน ๆ ห้อง หรือซื้อขายแบบเหมาโครงการไปเลย

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/379940/

5. เน้นโลเคชั่น

จะเป็นโมเดลของการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการมีจำนวนสาขาเยอะ ๆ ตอนรับลูกค้าเยอะ ๆ กระจายไปในจุดต่าง ๆ ยิ่งมีสาขามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำกำไรมากเท่านั้น ซึ่งเจ้าของธุรกิจที่เหมาะกับโมเดลแบบนี้ จะต้องชอบการพบปะผู้คน ชอบตอนรับขับสู้ ใจเย็น ชอบความหลากหลายของผู้คน

ยกตัวอย่าง บริษัทบริหารนิติบุคคลของคอนโดมิเนียม LPN ซึ่งจะใช้บริษัทบริหารนิติบุคคลบริษัทหนึ่ง ซึ่งบริหารจัดการงานนิติบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะการบริหารนิติบุคคล ที่คนเป็นพัน ๆ ครอบครัวมาอยู่รวมกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บริษัทนี้ทำได้ดี และมีการให้บริการหลายที่ด้วย ไม่เฉพาะแค่คอนโดมิเนียม LPN เพราะยิ่งไปบริหารหลาย ๆ ที่ หลาย ๆ โครงการ ก็จะยิ่งทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้น อันนี้เป็นโมเดลที่เน้นเรื่องสาขา

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/7948006/

6. เน้นองค์ความรู้

เป็นธุรกิจที่ทำเรื่ององค์ความรู้ เรื่องการวิจัย เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเจ้าของธุรกิจที่จะมาจับด้านนี้ จะต้องชอบเรื่องการวิเคราะห์เจาะลึก เรื่องการคิด การค้นหา การนำเสนอข้อมูลความรู้และข้อเท็จจริงที่จับต้องพิสูจน์ได้

ธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นโมเดลนี้ จะเป็นบริษัทด้านการทำวิจัยทางการตลาด เป็นบริษัทที่ช่วยให้การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีความถูกต้อง และขายได้ เพราะในบางพื้นที่ ถ้าไปลงทุนพัฒนาไม่ตามลักษณะที่ควรจะเป็น โครงการนั้นก็จะขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนมาซื้อ ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ว่าได้

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/7876708/

7. เน้นกระบวนการทำซ้ำ

เป็นโมเดลธุรกิจที่เน้นกระบวนการที่สามารถเกิดขึ้นแบบซ้ำ ๆ ได้ จะเน้นเรื่องการผลิตซ้ำให้ได้ปริมาณมาก ๆ เน้นความถูกต้อง ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้คน หรือใช้เครื่องจักรก็ตาม คนที่เหมาะกับโมเดลธุรกิจรูปแบบนี้ ควรเป็นคนที่คิดอะไรอย่างเป็นระบบ มองเห็นกระบวนการขั้นตอนในการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ได้

ในด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็เช่น บริษัท DDproperty ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับให้คนไปโพสต์ขายอสังหาฯ ทำให้คนเกิดกระบวนการซ้ำ ๆ มีคนเข้าไปใช้บริการ มีคนไปขาย มีคนไปซื้อ เกิดเป็นวงจรการซื้อขายซ้ำ ๆ ขึ้นภายใต้เว็บไซต์ของเขา

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/159298/

8. เน้นเครื่องจักร หรือเครื่องมือในการทำซ้ำ

เป็นรูปแบบการทำซ้ำอีกเช่นกัน แต่สำหรับโมเดลนี้ไม่ได้เน้นที่ให้คนเข้ามาหาเรา มาเข้าระบบของเรา เหมือนเว็บไซต์ของบริษัท DDproperty  แต่เน้นที่การเอาระบบ หรือเครื่องมือไปทำให้คนอื่น

เช่น บริษัท ฤทธา จำกัด ที่รับเหมางานก่อสร้าง ที่ถือว่ายิ่งมีจำนวนพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ๆ เขาก็จะยิ่งมีรายได้มาก เน้นการเอาเครื่องมือของตัวเองออกไปทำให้คนอื่น ยิ่งทำได้หลายงาน ก็ยิ่งมีรายได้

เครดิตภาพ: www.pexels.com/th-th/photo/1024248/

และทั้งหมดนี้ก็คือ รูปแบบในการทำธุรกิจ 8 อย่าง ที่ผมนำมาบอกเล่าให้ฟัง โดยสะท้อนมุมมองผ่านตัวตนของเจ้าของธุรกิจ และยกตัวอย่างของบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเราได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น แต่ทั้งนี้เราก็สามารถที่จะสังเกตและใช้รูปแบบ 8 อย่างนี้ ไปจับกับธุรกิจในกลุ่มอื่น ๆ ได้เช่นกัน เพราะเรื่องนี้เป็นพื้นฐานที่ออกมาจากรูปแบบวิธีคิดของมนุษย์ ถ้าหากเราเข้าใจเรื่องนี้ เราก็จะรู้ได้เลยว่าโมเดลธุรกิจแบบไหน เป็นโมเดลที่เหมาะสมกับความเป็นตัวตนของเราที่สุด ซึ่งการที่เราทำในสิ่งที่เป็นตัวเรา อันนั้น คือพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งในการที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จนั้นเอง

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

เก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ปีหน้าจะทำอย่างไร

ไร้สาระสิ้นดี!!! ทำงานก็มีผลลัพธ์
แล้วทำไมต้องประจบเจ้านาย บ้าไปแล้ว
ทำไมไม่ให้ผลงานเป็นตัวตัดสินหละ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนที่เก่งคน
เก่งการนำเสนอ และเจ้านายรัก
ถึงมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น?

อ่านต่อ »

เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

ทำงานดีทั้งปี เจ้านายไม่เห็นผลงาน
เจ้านายไม่รู้ เจ้านายไม่เห็นความสำคัญ
เพราะไม่ตรงกับเป้าหมาย ทำให้ตายก็
ไม่ไปไหนซักที
เจ้านายไม่รัก จะก้าวหน้าได้อย่างไร?

อ่านต่อ »

รับสิทธิพิเศษมั๊ย?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า

ลงทะเบียนตอนนี้ รับ E-Books ฟรี!!