ทุกคนรู้ดีเมื่อทำธุรกิจควรเขียน Business Plan หรือแผนธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องนำไปเสนอสถาบันการเงินเพื่อกู้เงินยิ่งต้องเขียนกันอย่างละเอียดและเป็นกิจลักษณะ แต่เชื่อหรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่เขียนไม่เป็น ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะการเขียนแผนธุรกิจอย่างจริง ๆ จัง ๆ นั้นไม่ได้เขียนจบในกระดาษสองสามหน้า แต่หลายสิบหน้า และครอบคลุมหลายมิติ

เอาเป็นว่าต่อให้คุณไม่ได้นำเสนอสถาบันการเงินเพื่อขอกู้เงิน คุณก็จำเป็นต้องมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนด้วย 5 เหตุผลดังต่อไปนี้

1. ชัดเจนว่าคุณจะทำอะไร

นักธุรกิจใหม่จำนวนมากมักตื่นเต้นกับไอเดียธุรกิจจนมองโลกในแง่ดีไปหมดว่ามันเวิร์ค มันดี มันใช่ แต่เมื่อลงมือทำไประหว่างทางต้องปรับโมเดลธุรกิจนับครั้งไม่ถ้วน ปัญหานี้จะลดลงหากคุณมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนก่อนจะเริ่มลงมือทำงาน

2. ชัดเจนว่าลูกค้าของคุณคือใคร

สินค้าและบริการของคุณไม่ได้เป็นที่ต้องการสำหรับทุกคน อย่าพยายามสร้างธุรกิจโดยคิดไปเองว่าจะขายทุกคนบนโลกนี้ หากคิดเช่นนั้นสุดท้ายคุณขายใครไม่ได้เลย การเขียนแผนธุรกิจจะช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นเข็มทิศให้คุณมุ่งตรงไปยังที่ที่ลูกค้าของคุณอาศัยอยู่

3. ชัดเจนว่าใครคือคู่แข่ง

นักธุรกิจบางคนคิดว่าตนเองกำลังเป็นเจ้าของไอเดียธุรกิจที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่าด่วนคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้น เพราะทุกอย่างที่คุณคิดได้ล้วนมีคนคิดได้มาก่อนแล้วทั้งสิ้น แต่หากสิ่งที่คุณคิดได้ไม่มีคู่แข่ง มันอาจแปลว่าไม่เวิร์คในพื้นที่ของคุณ! จงวิเคราะห์ว่าใครคือคู่แข่งของคุณ หาเขาให้เจอเพื่อนำมาวางแผนการทำงานของคุณ

4. ชัดเจนว่าใครคือพันธมิตร

การมีพันธมิตรทางธุรกิจจะช่วยให้คุณไปได้ไกลและไปได้เร็ว บางครั้งคุณอาจไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้าเองเพราะมีโรงงานพันธมิตร บางครั้งคุณอาจไม่ต้องทำการตลาดเองเพราะมีสื่อพันธมิตร และบางครั้งคุณอาจไม่ต้องจัดส่งเองเพราะมีพันธมิตรด้านระบบโลจิสติกส์ เป็นต้น

5. ชัดเจนว่าต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง

ข้อสำคัญแต่มักถูกละเลย คนอยากทำธุรกิจจำนวนไม่น้อยพลาดเรื่องการคำนวนงบประมาณในการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อเริ่มธุรกิจ ต่อด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องทีต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี และรายได้ที่จะได้รับจริง ๆ อย่างสมเหตุสมผลในช่วง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ฯลฯ ทำให้ขาดสภาพคล่องหลังเริ่มธุรกิจจริงไปไม่กี่เดือน ซึ่งการแผนธุรกิจจะเจอต้องลึกในเรื่องการเงินต่าง ๆ ด้วย และนี่เป็นส่วนที่สถานบันการเงินหรือนักลงทุนอยากดูและเป็นหนึ่งในตัวตัดสินใจให้เงิน!

คิดการใหญ่ต้องมีแผนธุรกิจร้อยล้าน

ในตลาดมีเครื่องมือช่วยเขียนแผนธุรกิจอันหนึ่งที่ใช้งานง่ายนั่นคือ Business Model Canvas เป็นตาราง 9 ช่องเพื่อกำหนดแผนและกลยุทธ์ธุรกิจซึ่งนับว่าใช้งานง่ายเหมาะกับธุรกิจใหม่ แต่หากคุณต้องการที่จะสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านหรือพันล้านที่มี Impact ต่อตลาดและสังคมเป็นอันมาก คุณต้องการแผนธุรกิจที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากกว่านั้น และเทคนิคเขียนแผนธุรกิจสไตล์ Millionaire Master Plan เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยคุณได้

แผนธุรกิจสไตล์ Millionaire Master Plan หรือ MMP เป็นการนำเอาข้อมูลที่สั่งสมผ่านองค์ความรู้จากศาสตร์ของ Wealth Dynamics และ Wealth Spectrum มาประกอบกัน โดยเราเชื่อว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ได้ต้องมีความชัดเจนแจ่มแจ้งตั้งแต่ ปรัชญาผู้ก่อตั้ง วิสัยน์ทัศน์ขององค์กร อัตลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ต้องถูกถ่ายทอดไปสู่บุคคลากรและผลิตภัณฑ์ขององค์กรจนเหมือนเป็นร่างกายเดียวกัน ซึ่งสุดท้ายแบรนด์จะถูกส่งต่อไปยัง ลูกค้า คู่ค้า และสังคม

เมื่อใดก็ตามที่องค์ประกอบของธุรกิจชัดเจนตามหลักแผนธุรกิจ MMP เมื่อนั้นธุรกิจจะมีโอกาสเติบโตรวดเร็วและก้าวกระโดดดั่งเช่นตัวอย่างของผู้ผ่านการอบรม MMP Master Plan Boot Camp ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ 5-10 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 3-6 เดือน อาทิ

คุณเรือรบ ระดมทุน 5 ล้านบาทโดยใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ เพื่อนำไปก่อตั้ง Learning Hub Space เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจบ MMP Boot Camp

คุณเหมียว ดุจธนนันท์ เกียรติเชิดแสงสุข เจ้าของแบรนด์คอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii เพิ่มยอดขายสินค้าจากเดือนละ 1 แสนคู่เป็น 1 ล้านคู่ ภายใน 3 เดือน และคุณแมน ชวยศ ป้อมคำ ผู้นำหลักสูตรระดับโลก Lean Startup Machine เข้ามาสอนในไทยโดยไม่มี Connection ใด ๆ แต่สามารถ ผลักดันหลักสูตรนี้ให้เข้าไปสอนในองค์กรระดับพันล้าน บริษัทมหาชน และรัฐวิสาหกิจในเวลาเพียง 1 ปี เป็นต้น

8 กฏเหล็ก เขียนแผนธุรกิจร้อยล้านให้ใช้งานได้จริง

ศาสตร์ในการเขียนแผนธุรกิจสไตล์ Millionaire Master Plan หรือ MMP แบ่งเป็น 8 หัวข้อครอบคลุมทุกมิติที่คุณต้องใช้จริงการวางรากฐานธุรกิจร้อยล้านดังนี้

Enterprise Promise พันธสัญญาแห่งผู้นำ

เป็นโจทย์แบบ Begin with an end in mind ว่าคุณและธุรกิจของคุณมีตัวตนบนโลกใบนี้ด้วยเหตุอันใด เพื่อคุณจะมีจุดยืนทางธุรกิจที่หนักแน่นและชัดเจน

Customer Promise พันธสัญญาแด่ลูกค้า

เป็นการวางเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าคุณจะส่งมอบคุณค่าอะไรให้แก่ลูกค้า และโปรดจำไว้เสมอว่าคุณไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกเป็นลูกค้าของคุณได้ ดังนั้นข้อนี้จะทำให้คุณชัดเจนว่าใครคือลูกค้าของคุณ

Network Promise พันธสัญญาแห่งเครือข่าย

คุณค่าอะไรบ้าง ที่คุณสามารถส่งมอบแก่เครือข่ายผู้สนใจ หรือผู้พร้อมจะร่วมเดินทางไปกับคุณ โดยที่คุณไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย (หรือมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด) สิ่งที่คุณสามารถให้พวกเขาได้ฟรี ๆ และก่อให้เกิดเป็นเครือข่าย แฟนคลับ ผู้ติดตาม สาวกที่พร้อมจะช่วยการบอกต่อแบรนด์ของคุณ

Partner Promise พันธสัญญาแห่งพันธมิตร

คุณค่าอะไรบ้าง ที่คุณสามารถส่งมอบให้กับคู่ค่าทางธุรกิจที่จะไม่ใช่แค่คุณที่ได้ประโยชน์ แต่เขาก็จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่เสมือนกับ ?ยิ่งคุณสำเร็จเท่าไร คู่ค้าของคุณก็สำเร็จเท่านั้น?

Market Promise พันธสัญญาทางการตลาด

เป็นการวางโครงสร้าง Revenue model ให้ชัดเจนเพื่อให้คุณแน่ใจว่ามีฐานตลาดที่ใหญ่พอ และมีแผนการขยายตลาดให้เติบโตแบบสุด ๆ เท่าที่ต้องการ

Investor Promise พันธสัญญาแด่นายทุน

คุณค่าอะไรบ้าง ที่คุณจะทำให้กับผู้ลงทุนให้กับธุรกิจของคุณ และมันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจและแบรนด์ของคุณ

System Promise พันธสัญญาแห่งระบบ

ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการทำงานในองค์กรเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงแก่ผู้ร่วมงานทุกคน รวมไปถึงตัวคุณเองที่สุดท้ายต้องสามารถเอาตัวเองออกจากระบบ

Social Promise พันธสัญญาแห่งชุมชน

ที่สุดของความสำเร็จคือการตอบแทนสังคม?เป็นการทำธุรกิจเพื่อตอบแทนสังคมในรูปแบบที่ให้ทำคุณดึงดูดทรัพยากรดีๆ ในแบบที่เงินไม่สามารถซื้อได้

สรุป

จะเห็นว่าแผนธุรกิจ MMP ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง อย่างเช่น หากจะเสนอธนาคารก็ต้องเน้นการเงินและตัวเลข ส่วน Business Model Canvas จะมุ่งเน้นไปที่ ลูกค้าและวิธีการส่งมอบ ส่วน MMP จะครอบคลุมรอบด้านที่เป็นโครงสร้างสำคัญของธุรกิจทั้งระบบเพื่อการเติบโตในระยะยาว และพุ่งเป้าไปที่การรองรับการขยายตัวระดับหลักร้อยล้านนั่นเอง

รายละเอียดเกี่ยวกับการจัดอบรม Millionaire Master Plan Boot Camp ที่นี่ครับ