สรุปบทสัมภาษณ์ของ “คุณเร-เรวดี วัฏฏานุรักษ์” จากเด็กจบใหม่ เป็น Managing Director ได้ ภายใน 8 ปี
คุณเร-เรวดี วัฏฏานุรักษ์ ใช้ระยะเวลาเพียง 8 ปี ในการไต่เต้าจากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ มาสู่ตำแหน่งสูงสุดในวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น คือ กรรมการผู้จัดการ (MD) บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ให้บริการระบบแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการรายใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมียอดแลกเปลี่ยน กว่า 950 ล้านบาท/ปี ใน 6 สาขา ในประเทศไทย
แต่ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ แต่เพราะคุณเรมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมาตั้งแต่เด็กว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่หรือผู้บริหาร
คุณเรเติบโตมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจ ชอบศึกษาเรื่องธุรกิจและการตลาดมาตั้งแต่เด็ก หลังเรียนมหาวิทยาลัยจบในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง ก็เริ่มทำงานในตำแหน่งพนักงานขายสินเชื่อบ้าน
อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีลูกค้ามาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการทำงานที่ ฺBartercard คุณเรจึงรู้สึกสนใจ หลังจากนั้น ก็เริ่มมีคนติดต่อคุณเรให้เข้ามาให้ทำงานที่นี่
คุณเรเริ่มต้นจากตำแหน่ง Account Executive ตั้งแต่อายุ 21 ปี มีโอกาสติดต่อกับเจ้าของธุรกิจมาโดยตลอด ทำให้เห็นมุมมองและทางลัดในการทำธุรกิจ และด้วยความที่บริษัทอิงเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานเป็นตัวชี้วัดหลัก (Performance base) เลยทำให้มีโอกาสเติบโตมาก
ทักษะเดียวที่ทำให้คุณเป็นผู้บริหารได้
คุณเรได้ Top Performance ในสายงานดูแลลูกค้าสัมพันธ์มาตลอด และมีความสุขอยู่ใน Comfort Zone เดิม จนกระทั่งวันนึง บริษัทให้ย้ายไปอยู่ฝ่ายขาย ตอนแรกก็ต่อต้านในใจเพราะเคยมีทัศนคติไม่ดีกับงานขาย
ทางบริษัทก็พูดให้ฉุกคิดว่า “ไม่มีบริษัทไหนประสบความสำเร็จได้ ถ้าไม่มีทีมขาย” เมื่อวิธีคิดเปลี่ยนคุณเรก็ออกจาก Comfort Zone ผันไปอยู่ฝ่ายขาย เราต้องมีเลือดนักขายอยู่ในตัวเอง
สร้างธุรกิจใหม่ ไม่ต้องใช้เงิน
ถ้าวันนี้ คุณไม่สามารถเสกเงินกลางอากาศได้ แล้วมีข้ออ้างว่าไม่มีเงิน คุณจะไม่สามารถทำธุรกิจได้เลย ถึงแม้เราไม่มีเงิน แต่เรายังมีสมอง ธุรกิจต้องไปได้ คำถามที่น่าสนใจคือ “ถ้าวันนี้เราไม่มีเงิน เราจะเอาอะไรไปแลก?”
บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่ในการเป็นคนกลางที่บริหารช่องว่างในการทำธุรกิจ (Unused Capacity) เป็นทีมการตลาด ช่วยเพิ่มยอดขาย และยังช่วยลดค่าใช้จ่าย ด้วยการช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันอีกด้วย
ยกตัวอย่างลูกค้าที่แก้ไขปัญหาธุรกิจในช่วง COVID-19 เช่น ผู้ผลิต BILLBOARD ที่ถึงแม้ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาวอยู่ แต่เขารู้ว่าไม่สามารถมีรายได้หลักจากธุรกิจนี้อย่างเดียวได้ เขาเลยทำธุรกิจใหม่ เป็นธุรกิจอาหารเสริม โดยนำเงินที่ขาย BILLBOARD ได้ มาเริ่มต้นพัฒนาธุรกิจ พัฒนาระบบต่างๆ
ปรับตัวไว ลดค่าใช้จ่าย
Bartercard คือตัวช่วยให้กับนักธุรกิจ เป็นไหล่ให้นักธุรกิจได้พักพิง ทีมงานต้องเรียนรู้ให้ทันเหตุการณ์ทุกฝีก้าว และเป็นเพื่อนคู่คิดกับลูกค้า
ในวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ หลายๆคนต่างก็บอกว่าขายของไม่ได้ แต่จริงๆแล้วยังมีคนที่มีกำลังซื้ออยู่ เพียงแต่ไม่สามารถจ่ายด้วยเงินสดได้
กรณีตัวอย่าง เช่น ร้านทำผมร้านหนึ่งถูกสั่งปิดทุกสาขา ไม่สามารถบริการตัดผมได้ ทาง Bartercard เลยช่วยในการโปรโมทสินค้ากลุ่มทรีทเม้นต์ในสต็อกแทน เพื่อระบายสินค้า โดยการนำมาแลกเปลี่ยนกับบริการจากบริษัทด้านการตลาดออนไลน์ ในการเอาสินค้าไปโปรโมท
SME จะทำอย่างไร ถ้า COVID ไม่ไปสักที
1) คุณต้องรู้งบการเงินของธุรกิจ
ธุรกิจที่จะอยู่รอดอย่างยั่งยืน จะต้องรู้จักตัวเองอย่างละเอียด เงินสดตอนนี้มีอยู่เท่าไหร่ และต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนใด
2) ความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Sense of Ownership)
คุุณเรมองว่าพนักงานทุกคนเป็นหุ้นส่วนของธุรกิจ เมื่อคิดแบบนี้ ความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรจะเกิด เมื่อยอดขายไม่ดี คนในตำแหน่งอื่นๆก็จะอยากช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งนี้สำคัญมาก
3) ผู้นำต้องแข็งแกร่ง
ผู้นำต้องเปิดรับเครื่องมือใหม่ๆ ไหวตัวให้เร็ว สินค้ากับบริษัทเป็นแค่ยานพาหนะ ให้เราเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง
คุณเรกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เมื่อประสบปัญหา คติของคุณเรคือ “LOOKING FOR SOLUTION” ตั้งคำถามก่อนว่าทางออกคืออะไร เราสั่งงานสมองทันทีว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อย่ามัวจมอยู่กับปัญหา ปัญหาเกิดขึ้นให้เราแก้
ติดตามบทสัมภาษณ์คุณเรวดีแบบเจาะลึก…
========================
📚เรียนรู้เพิ่มเติม
บทเรียน 4 เทคนิค เพิ่มยอดขาย 2 เท่า! :
บทความการตลาด :
.
📍SOCIAL MEDIA
Facebook:
Youtube:
LINE :
Website:
.
💁♀️สนใจหลักสูตร / สอบถาม
หลักสูตรทั้งหมด: https://pay4tomorrow.com
Inbox:
Tel: 097-113-1976
#WinningOverCrisis