เจ้าของกิจการใหม่จำนวนไม่น้อยที่ค้นพบธุรกิจที่ใช่และตลาดที่ชอบ ทดสอบด้วยตนเองแล้วไปได้ดีมีงานเข้ามามาก จึงเริ่มขยายทีมเพื่อรองรับการเติบโต แต่ปรากฏว่ามีพนักงานครบชุด แต่ยังต้องลงไปทำงานเองแทบทุกอย่าง เป็นแบบนี้ต่อไปนอกจากจะขยายธุรกิจไม่ได้แล้วยังอาจทำให้ถอยหลังกลับไปสู่วิกฤตของเจ้าของอีกด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่โชคชะตาแต่มีเหตุปัจจัยที่คุณสามารถทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมีเครื่องมือชี้วัดว่าคุณมีแนวโน้มเป็นผู้ใช้ชีวิตใน ระดับสีเขียว อันเป็นระดับความมั่งคั่งตามศาสตร์ของ Wealth Spectrum และต่อไปนี้คือทางออกของคุณแบบ Step-by-Step ครับ!
ภาพรวมของ Wealth Spectrum ระดับสีเขียว
Wealth Spectrum ระดับที่ 5 สีเขียว (Green) ฉายานักดนตรีนำ เป็นผู้มีบทบาทต่อการทำงานของพนักงานทุกคน โดย ณ จุดนี้องค์กรของคุณยังไม่ใหญ่มากและพนักงานทุกคนก็รู้จักและเข้าถึงคุณได้ คุณอาจทำงานสำคัญ ๆ ด้วยตนเองอยู่ เช่น เปิดดีลใหญ่ ๆ เปิดตลาดใหม่ ๆ ดูแลลูกค้า Key account ด้วยตนเอง แต่งานปลีกย่อยและ Operation ต่าง ๆ เป็นพนักงานของคุณที่ดูแล โดยคุณจำเป็นต้องรู้ความคืบหน้าของทุกงานโดยละเอียดและชัดเจนแบบวันต่อวัน เพื่อกำหนดทิศทางของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
ตัวชี้วัดของผู้อยู่ในระดับสีนี้
รายได้ที่มาจากการทำงานของทีมงานในกิจการ
นี่คือจุดกึ่งกลางของ Wealth Spectrum และเป็นปริซึ่มระดับ กิจการ ที่มีกระแสเงินสดเป็นบวกผ่านกิจการและทีมงานมืออาชีพที่ช่วยคุณทำงาน โดยคุณยังเป็นแม่ทัพหลักในการผลักดันงานในแต่ละวันให้เดินไปข้างหน้า หากเปรียบ Spectrum สีเหลืองคือเจ้าของเส้นทางถนนเลนเดียว สีเขียวก็เปรียบกับผู้ขยายสู่เจ้าของถนน 3 เลน คุณมีกระแสความลื่นไหลที่คล่องตัว เร็วและแรงขึ้น แต่คุณยังคงวิ่งอยู่ในระนาบเดียว ยังไม่มีทางด่วนหรือทางยกระดับเป็นของตัวเอง กล่าวคือ คุณมีทีมงานที่ปฏิบัติงานแทนคุณได้ในแต่ละส่วน แต่คุณต้องเป็นผู้ลงไปกำหนดกลยุทธ์และตรวจสอบแต่ละส่วนด้วยตนเองเป็นอันมากอยู่
สถานะ หรือสภาวะของผู้อยู่ในระดับสีนี้
กำหนดทิศทางที่ชัดเจน
คนในระดับสีเขียวมุ่งเน้นการกำหนดทิศทางการทำงานให้ชัดเจนและมอบหมายงานให้ผู้อื่นทำโดยที่ตนเองจะไม่ลงไปทำแทนแม้จะทำได้ก็ตาม แต่จะติดตาม ตรวจสอบ และวัดผลลัพธ์ด้วยตนเอง ต่างจากสีเหลืองซึ่งทำงานเป็นและยังทำด้วยตนเองเป็นอันมากอยู่ อาจจะไม่ไว้ใจหรือไม่เชื่อว่าผู้อื่นจะทำได้ดีกว่าตน แต่การจะมาอยู่ระดับสีเขียวต้องมุ่งเรื่องคนมากขึ้น ดังนั้นระดับสีเขียวจึงต้องเรียนรู้ที่จะไว้ใจผู้อื่น ควบคู่ไปกับการกำหนดที่ทิศทางธุรกิจและการทำงานที่ทุกฝ่ายเข้าใจร่วมกัน จากนั้นสร้างระบบวัดผลที่ตนเองตรวจสอบได้
คุณมาอยู่ในจุดนี้และจะรักษาระดับนี้ได้อย่างไร?
สร้างทีมงานให้กิจการของคุณ
Spectrum สีเขียวคือจุดที่กระแสความลื่นไหล (Flow) ของคุณมีกำลังสูงขึ้นเกินกำลังของคน ๆ เดียว ณ จุดนี้คุณไม่ได้ทำงานภาคปฏิบัติทุกส่วนเหมือนระดับสีเหลือง แต่จะเป็นทีมงานที่เกี่ยวข้องทำแทนคุณเกือบทั้งหมด ทีมงานของคุณคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจ (สินค้า) เชื่อมโยงกับ ตลาด (ลูกค้า) โดยคุณมีหน้าที่ Monitor หรือ สังเกตการณ์เพื่อรักษากระแสของความลื่นไหลนี้ให้ต่อเนื่องในแต่ละวัน
คนในระดับสีเขียวจำนวนไม่น้อยทำผิดพลาดโดยการด่วนแยกตัวไปก่อตั้งธุรกิจใหม่ ๆ เพราะเห็นว่ามีคนช่วยงานในกิจการเดิมแล้ว (ซึ่งเป็นกิจกรรมของ Spectrum ระดับสีฟ้า) แต่เพราะโครงสร้างธุรกิจที่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะเดินด้วยตัวเองได้ เมื่อคุณไม่อยู่ในกิจการ โครงสร้างก็พังและเวลาตก มักตกไปอยู่ระดับใต้สีแดงกันเลยทีเดียว
ปรับจังหวะของคุณให้เหมาะสม
ทีมจะเป็นผู้กำหนดจังหวะในแต่ละสัปดาห์ และแต่ละเดือนของคุณ คุณต้องรายงานความเป็นไปในกิจกรรมแก่ทีมงาน และทีมงานก็ต้องรายงานความเป็นไปในการปฏิบัติงานแก่คุณ การฝ่าฝืนจังหวะจะรบกวนกระแสของความลื่นไหล แต่การปรับจังหวะให้สอดคล้องกันอยู่เสมอจะทำให้กระแสของความลื่นไหลนั้นเหมาะสมเข้ากับขนาดของทีมและธุรกิจของคุณ
แต่การรักษาจังหวะนี้ก็ฉุดรั้งคุณไม่ให้เลื่อนขึ้นไปยังระดับสีฟ้า เช่นเดียวกับที่นักดนตรีนำในวงออร์เคสตร้าไม่สามารถไปทำหน้าที่วาทยกรได้ในขณะที่บทเพลงยังบรรเลงอยู่ สะพานเชื่อมจากระดับหนึ่งไปสู่อีกระดับจะปรากฎในช่วงเวลาว่างที่เกิดขึ้นระหว่างพักการแสดงแต่ละอีเวนต์ ดังนั้นคุณจึงต้องวางแผนเลื่อนขั้นเอาไว้ล่วงหน้า
ก้าวเดินไปในจังหวะที่สอดคล้องกัน
สิ่งที่ทำให้คุณอยู่ในระดับสีเขียวคือความชัดเจนว่ากระแสของความลื่นไหลของคุณนั้นมีบทบาทอย่างไรกับทีมงานและตลาดของคุณ ทันทีที่กิจการของคุณขาดความสอดคล้องกับตลาด ผลกำไรและกระแสเงินสดก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทันทีที่คุณขาดความสอดคล้องกับกิจการของคุณ จังหวะก็จะล่ม นักดนตรีนำเพียงคนเดียวที่เล่นไม่ตรงจังหวะจะทำให้วงออร์เคสตร้าทั้งวงหลงจังหวะได้ แต่ ณ ตอนนี้การพุ่งความสนใจไปที่จังหวะนั้นขัดขวางไม่ให้คุณเลื่อนขั้นไปสู่ระดับสีฟ้าได้ ตอนที่นักดนตรีนำกำลังจดจ่ออยู่ที่มือของวาทยกรซึ่งขยับไปมา ตัววาทยกรเองนั้นก็ได้มุ่งความสนใจไปหนึ่งขั้นล่วงหน้าแล้ว
แต่ละกลยุทธ์ที่คุณใช้เพื่อให้มาถึงระดับสีเขียวนั้นได้กลายมาเป็นสิ่งกีดขวางการเลื่อนขั้นไปสู่ระดับสีฟ้า สิ่งกีดขวางนี้อาจจะเป็นอุปสรรคที่แท้จริงหรืออาจจะกลายเป็นเวทีรองรับตัวคุณให้ก้าวหน้าขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะก้าวขึ้นไปหรือไม่ แก่นของการก้าวขึ้นสู่ระดับสีฟ้าคือการปลดตนเองออกมาจากการยึดติดกับผลลัพท์ของการทำกิจการ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ใดผลลัพธ์หนึ่งโดยเฉพาะ และเตรียมพร้อมเพื่อจะรับทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
คุณจะเลื่อนไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้อย่างไร
เจ้าของกิจการที่มี Wealth Spectrum ระดับเหนือคุณคือ สีฟ้า หรือฉายา วาทยากร จะให้ความสำคัญกับกิจกรรมรายวันของฝ่าย Operation น้อยลง มุ่งเน้นความสนใจไปที่ Business deals และ Financial ของกิจการมากขึ้น บุคคลในระดับสีฟ้าทจึงมักมีนักบัญชีและนักกฎหมายอยู่ในทีมที่ปรึกษาความมั่งคั่งของตนเอง ถัดไปคือขั้นตอนเพื่อเลื่อนระดับไปสู่สีฟ้า
สร้างตัวคุณให้เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม
ขั้นแรกของการสวมบทบาท วาทยากร คือการทำให้อำนาจสั่งการของตนเองนั้นมั่นคง วาทยกรผู้ควบคุมวงดนตรี (musical conductor) นั้นได้รับความเคารพจากนักดนตรีทุกคนในวงออร์เคสตร้า เปรียบได้กับพนักงานควบคุมบนรถโดยสาร (bus conductor) ซึ่งสามารถเรียกตรวจดูตั๋วแล้วผู้โดยสารทุกคนก็จะให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม หรือเปรียบเหมือนกับสายล่อฟ้าหรือหากแปลตรงตัวว่าสิ่งควบคุมสายฟ้า (lightning conductor) ก็มักจะถูกวางตำแหน่งให้อยู่ในจุดที่มีกระแสไหลผ่านง่ายที่สุด โดยกระแสของสายฟ้าผ่าหรือฟ้าแล่บก็ไปตกในจุดที่ตั้งของสายล่อฟ้าเสมอ
คุณจะสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจสั่งการของคุณได้ยากหากเป็นกิจการที่คุณสวมบทบาทเป็น นักดนตรีนำอยู่ บุคคลในระดับสีฟ้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานมากเท่ากับการมุ่งเน้นไปที่คำถามเชิงกลยุทธ์ว่า เช่น จะขยายตลาดไหมอย่างไร จะเพิ่มยอดขายอย่างไร จะลดต้นทุนอย่างไร ฯลฯ ในขณะที่เจ้าของกิจการในระดับ สีเหลือง หรือ นักดนตรี จะพยายามทำหลายอย่างพร้อม ๆ กันด้วยตัวคนเดียวเพื่อรักษาแหล่งรายได้ทั้งหลายของตนไว้ ในขณะที่เจ้าของกิจการในระดับ สีเขียว หรือ นักดนตรีนำ จะพยายามตรวจสอบการทำงานของผู้เล่นเป็นรายคนในทุก ๆ วัน
พัฒนากระบวนการของคุณให้สมบูรณ์แบบ
สิ่งที่แบ่งแยก นักธุรกิจระดับ สีฟ้า/วาทยากร ออกจากนักธุรกิจในระดับ สีเหลือง/นักดนตรี และ สีเขียว/นักดนตรีนำ คือระดับของความใส่ใจและวินัยในการจัดการ คุณลักษณะนี้ยังครอบคลุมไปถึงความใส่ใจในการคัดเลือกและให้รางวัลจูงใจพนักงานที่มีผลงานดีเยี่ยมเพื่อให้บริหารกิจการแทนตนเอง การสร้างกระบวนการที่มีการตรวจสอบ การประเมินผลและระบบแจ้งเตือนอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาด
สร้างสมดุลของคุณ (ทั้งงบดุลและการบริหารงาน)
ในขณะที่ระดับสีเขียวมุ่งเน้นไปที่เงินสดและผลกำไรของบริษัท ระดับสีฟ้าจะมุ่งเน้นไปที่ผลประกอบการของเงินทุนและผลตอบแทนจากการลงทุน (capital performance and return on investment) ซึ่งก็คือการสร้างความชำนาญเกี่ยวกับงบดุลการเงินของตนนั่นเอง เศรษฐีทุก ๆ คนต่างมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเงินซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาจะขาดไม่ได้ การสร้างความสมดุลนี้ยังรวมถึงความสมดุลในตนเองด้วย ในยามที่ทุกอย่างไปได้สวยคุณก็เตรียมพร้อมรับมือกับความยากลำบากและในเวลาที่ยากลำบากคุณก็เตรียมพร้อมรับสิ่งดี ๆ เช่นกัน
วาทยกรระดับสีฟ้ามักจะดึงดูดคำวิพากษ์วิจารณ์และมีคนจ้องจะเอาเปรียบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นได้ทั้งเครื่องบ่อนทำลายและแรงผลักดันของคุณ คนในระดับอื่น ๆ ของสเปคตรัมแห่งความมั่งคั่งจะมองความสำเร็จในระดับสีฟ้าของคุณแบบสุดโต่งโดยมีความเคลือบแคลงสงสัยและอิจฉาริษยา การอยู่ในแต่ละระดับของสเปคตรัมแห่งความมั่งคั่งต่างก็มีต้นทุนของตนเอง แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเลื่อนระดับขึ้นไป ความสมดุลที่คุณสั่งสมมาจะทำให้ปฏิกิริยาจากพวกคนสุดโต่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องสำคัญรองจากมูลค่าและประโยชน์ที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาได้เลย
กรณีศึกษา
ครั้งหนึ่ง เจ้าของหลักสูตร Wealth Spectrum (ผู้เขียนหนังสือ The Millionaire Master Plan) ให้คำปรึกษาแก่ จันทเรช (Chandresh) พาลา มีธุรกิจอยู่ในประเทศอินเดีย และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขามีความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณ Steel energy?ใกล้เคียงกับ Wealth Dynamics โปรไฟล์ Lord หรือ โปรไฟล์?Mechanics โดย จันทเรช นำเงินของเขาไปลงทุนในกิจการและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อหวังรายได้หลายทาง แต่ประสบปัญหาในการบริหารจนสถานะทางการเงินฝืดเคืองและตกสู่ระดับ ใต้สีแดง
เมื่อผม (เจ้าของหลักสูตร Wealth Spectrum) เริ่มทำงานกับจันทเรช ผมถามเขาว่าหากเขาเลือกได้ เขาอยากทำอะไรในอนาคต จันทเรช ตอบว่า
?…อยากเป็นนักธุรกิจระดับสีน้ำเงินหรือวาทยกร […] อยากลงทุนในธุรกิจเปิดใหม่ในวงการไอที และใช้ความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับบริษัทเหล่านั้น…?
ทีมที่ปรึกษา Wealth Spectrum วางแผนให้จันทเรช จัดการสินทรัพย์ของตัวเองเสียใหม่ จ่ายหนี้ให้หมด และจำกัดวงเงินที่เขาจะใช้ลงทุนในธุรกิจของเขาทุกเดือน เขามีห้องว่างรอปล่อยให้เช่าในราคาสูง พวกเราจึงปรับลดค่าเช่าให้ถูกลงเพื่อให้มีกระแสเงินสดไหลเวียนเข้ามา และกระแสเงินสดของจันทเรชจะได้กลายเป็นบวกในที่สุด เขาก้าวออกจากระดับใต้สีแดงไปสู่ระดับสีเหลือง และระดับสีเขียวตามลำดับ จนในที่สุดก็แตะระดับสีน้ำเงิน
ขั้นตอนที่ 1 : สร้างตัวคุณให้เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม
อย่ามุ่งเน้นกับปัจจัยภายในมากเกินไป การใช้ความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณ (Steel Genius) เพื่อปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดและระบบของธุรกิจของคุณ นั้นเป็นสูตรที่นำไปสู่ความสำเร็จ (winning formula) ในระดับสีเขียวแต่กลับกลายเป็นสูตรที่ก่อให้เกิดความล้มเหลว (losing formula) ในระดับสีน้ำเงิน จงใช้ความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณ (Steel) ของคุณ ทำให้ตัวคุณเองมีความชำนาญและความรู้ในตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche) ของคุณ และสร้างทีมงานเพื่อสนับสนุนคุณให้เชื่อมต่อกับ ผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมของคุณด้วย
จันทเรชได้ลงทุนในบริษัท โคคอนเน็กซ์ (Coconnex) ซึ่งเป็นบริษัทจัดงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเขา และดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทด้วย เขาใช้วิธีการให้บริษัทกู้เงินเป็นระยะเวลา 6 เดือนและแทนที่เขาจะมีกระแสเงินสดติดลบ เขากลับมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ในพอร์ตของเขา และบริษัทก็มีระยะเวลายาวขึ้นอีก 6 เดือนเพื่อทำกำไรให้ได้ จากนั้นเขาก็จ้างผู้มีความเป็นอัจฉริยะแห่งการสื่อสาร (Blaze) เข้ามาบริหารบริษัทในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป เพื่อที่จันทเรชเองจะได้มีเวลาไปทำตามขั้นตอนที่เขาต้องทำในฐานะนักดนตรีนำในระดับสีเขียว
เมื่อผลประกอบการของบริษัทโคคอนเน็กซ์เริ่มดีขึ้น เพราะมียอดขายเข้ามามากขึ้น จันทเรชจึงได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์หนึ่งในหลาย ๆ บริษัทของเขาที่มีชื่อว่า โคฮีเซีย (Cohezia) ให้กลายมาเป็นบริษัทที่คอยช่วยผลักดันบริษัทที่ดำเนินงานด้านเทคโนโลยี (Tech accelerator)
โดยเขาตอบรับบริษัทต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีมาอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ด้วยการใช้จุดแข็งในความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณ (Steel) ของเขา จันทเรชสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาระบบสำหรับธุรกิจ start-up ทั้งหลาย
เขาได้สร้างเอกลักษณ์ให้บริษัท โคฮีเซีย (Cohezia) ของเขา ให้กลายเป็นบริษัท ที่คอยช่วยผลักดันบริษัทที่ดำเนินงานด้านเทคโนโลยี (Tech accelerator)ด้วยการนำเสนอบริการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือปริษัทเปิดใหม่ทั้งหลายให้ตั้งตัวได้ ซึ่งบริษัทเหล่านั้นเองก็กำลังมองหาเงินทุนแหล่งใหม่เพื่อพัฒนาบริษัทให้เติบโตต่อไป
เพื่อสร้างตัวของจันทเรซเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม เขาจึงทำให้บริษัทCoconnex กลายเป็นลูกค้ารายแรกของบริษัท โคฮีเซีย (Cohezia) ที่เขาบริหารอยู่ จากนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมต่อกับชุมชนแห่งการลงทุน โดยการเข้าร่วมงานประชุมนักลงทุนแองเจิลอินเวสเตอร์ (angel investor) และนั่นนำพาเขาเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 : พัฒนากระบวนการของคุณให้สมบูรณ์แบบ
อย่ามัวติดอยู่กับการบริหารจัดการ ขั้นตอนการวัดผล และขั้นตอนการทำงานในบริษัทของคุณ แต่ให้คุณมุ่งเน้นไปที่วิธีการเพิ่มผลกำไร จงหาทีมงานเข้ามาบริหารจัดการ และวัดผลขั้นตอนการทำงานแทนคุณ เพื่อที่คุณจะได้ถอยออกมามองภาพรวมของบริษัท และสามารถจัดเตรียมขั้นตอนการทำงานที่ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบแนวทางและโอกาสต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินทุนของธุรกิจ หรือสินทรัพย์ของคุณให้ได้มากที่สุด
เมื่อมองบริษัทตัวเองในฐานะผู้ลงทุน วิธีการปฏิบัติของจันทเรชก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง จากที่เขาเคย ?สวมหมวกระดับสีเขียว? (ที่คอยถามตัวเองว่า เขาจะทำยอดขายเพิ่มขึ้น และจะสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นได้
อย่างไร) เขาก็มา ?สวมหมวกระดับสีน้ำเงิน? แทน (และถามตัวเองว่า เขาจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยการสนับสนุนด้านการเงินของเขาหรือไม่และทีมบริหารของเขาจะสามารถส่งมอบคุณค่าที่คุ้มกับเงินที่ลงทุนไปหรือเปล่า)
ผลก็คือ จันทเรชสามารถมองธุรกิจของเขาได้ทะลุปรุโปร่งมากขึ้น และกดดันน้อยลง ด้วยการใช้ความเป็นผู้นำในระดับที่เหมาะสม และเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำนั้น เขาสามารถบริหารองค์กรได้ดีกว่าที่เขาเคยทำได้ และยังทำให้เขามีเวลามากขึ้นในการเชื่อมต่อกับชุมชนนักลงทุนแองเจิลอินเวสเตอร์ (angel investor)ด้วย ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน จันทเรชก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเครือข่าย TIE ซึ่งเป็นเครือข่ายของที่ปรึกษา และผู้ลงทุนชั้นนำของประเทศอังกฤษ และเมื่อเขาได้เข้ามารับบทบาทที่ปรึกษาในเครือข่าย ที่มีสมาชิกกว่า 13,000 คนจาก 14 ประเทศ จันทเรชก็เริ่มดึงดูดโอกาสจากทั้งนักลงทุน และบริษัทที่มองหาผู้ลงทุน
ขั้นตอนที่ 3 : สร้างความสมดุลของคุณ (ทั้งงบดุลและการบริหารงาน)
อย่ามัวแต่ใช้รายงานกระแสเงินสด และงบกำไรขาดทุนเป็นคะแนนหลัก ในการตัดสินความสำเร็จของคุณ ขอให้ใช้บัญชีงบดุลของคุณเป็นหลักและรายงานกระแสเงินสด และงบกำไรขาดทุนทีหลัง
จงสร้างรายงานพอร์ตการลงทุน (portfolio statement) เพื่อให้คุณดูผลลัพธ์ได้ง่ายซึ่งจะทำให้คุณเห็นตัวเลขผลตอบแทนเป็นเงินสดจากการลงทุน (Cash Return On Investment) และตัวเลขรายได้จากสินทรัพย์แต่ละ
จันทเรชเปลี่ยนทัศนคติไปจดจ่อที่สินทรัพย์ของเขาแทน เมื่อเขาประเมินมูลค่าของบริษัทของเขาเอง เขาจึงมองเห็นหนทางว่า เขาจะสามารถหาเงินทุนให้เท่ากับมูลค่าที่เขาต้องการได้ด้วยการวางแผนอนาคตว่า บริษัทของเขาจะเติบโตไปในทิศทางไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า การประสบความสำเร็จในช่วงสั้นๆ นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเขาจะต้องเดินตามแผนที่วางไว้เพื่อที่นักลงทุนจะได้มองเห็นว่า บริษัทสามารถส่งมอบผลงานตามที่พวกเขาคาดหวังได้ แผนอนาคต 5 ปีข้างหน้าจึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการประสบความสำเร็จในระยะสั้น และนั่นยังทำให้จันทเรชสามารถระดมทุนเพื่อการลงทุนไม่ใช่แต่เพียงเฉพาะสำหรับบริษัทโคคอนเน็กซ์ เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มทุนให้กับบริษัทโคฮีเซียด้วย
จากนั้น จันทเรชก็จ้างผู้จัดการทั่วไปให้เข้ามาบริหารงานที่โคฮีเซียผู้จัดการทั่วไปคนนั้นได้สร้าง รายงานมาตรฐาน (template) ของกระบวนการทำงาน และตัวชี้วัดผลงานที่สามารถใช้ได้กับทุกบริษัท ที่เขาต้องการลงทุน
แต่เรื่องราวของจันทเรชนั้นก็มีคำเตือนสำหรับทุกคนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีความเป็นอัจฉริยะแห่งการคำนวณ (Steel) นั่นก็คือ การทำตามวิธีของ The Millionaire Master Plan ไม่ได้แปลว่า ทุกอย่างจะราบรื่นตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเริ่มทำตามขั้น ตอนที่ผมบอกไปนะ ทุกอย่างไม่ได้สวยหรูเหมือนการล่องเรือที่คุณจะเจอแต่เพียงท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง หรือคลื่นลมที่สงบอยู่ตลอดเวลา หรือคิดว่า คุณสามารถหยุดทำงานทุกอย่าง แล้วเรือก็สามารถแล่นไปได้เองด้วยระบบอัตโนมัติหรอกนะ
ผมเพิ่งพบกับจันทเรชเมื่อเร็วๆ นี้ ตอนที่เขาตื่นเต้นกับความคืบหน้าในธุรกิจของเขา เขากลับไปอยู่ในสภาวะเครียด และเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของเขา เขากลับมาขอคำปรึกษาจากผมว่า เขาจะทำให้ธุรกิจเขาเติบโตได้อย่างไร ผมหยุดคิดแล้วจึงถามเขาไปเหมือนที่ที่ปรึกษาของผมเคยถามผมเมื่อหลายปีก่อน ?ตอนนี้การเงินส่วนตัวของคุณเป็นอย่างไรแล้วล่ะ??
จันทเรชมัวแต่ยุ่งอยู่กับการยกระดับธุรกิจของตัวเองจนทำให้การเงินส่วนตัวของเขาตกกลับไปอยู่ในระดับใต้สีแดง (Infrared) อีกครั้ง พวกเราจึงมองย้อนกลับไปว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เกิดอะไรขึ้น จนจันทเรชไม่ทันสังเกตเห็นถึงปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่นี้ (เพราะเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับสิ่งอื่นจนลืมตรวจเช็คสุขภาพการเงินของเขานั่นเอง)
แต่ข่าวดีก็คือจันทเรชสามารถแก้ไขวิกฤต และก้าวพ้นออกจากระดับใต้สีแดงได้ภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์โดยการปรับเปลี่ยนการจดจ่อ โฟกัส (Focus) และความชัดเจนของตัวเองเสียใหม่ ความรวดเร็วในการแก้สถานการณ์ของจันทเรชนั้น มาจากความเข้าใจในระบบนำทางจีพีเอส (GPS) ของ แผน 9 ขั้นปั้นคุณเป็นเศรษฐี (The Millionaire Master Plan ) นั่นคือ การที่เขาเข้าใจว่าตัวเองต้องทำอะไรในแต่ละขั้นของแผน ระดับที่เขาผ่านมา ตั้งแต่ระดับใต้สีแดง (Infrared) จนไปถึงระดับสีน้ำเงิน (Blue) ไม่ว่าคุณหรือจันทเรชก็หลงทางได้ หากคุณเลิกสนใจแผนที่ที่คุณมีอยู่ แต่หากคุณสามารถกลับไปทำตามแผนที่ของคุณได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้คุณกลับเข้ามาอยู่ในเส้นทางของคุณเร็วเท่านั้น
รายละเอียดแบบเจาะลึกสามารถอ่านได้จากหนังสือ?The Millionaire Master
เวอร์ชั่นแปลไทยชื่อ?แผน 9 ขั้นปั้นคุณเป็นเศรษฐี ที่นี่
สรุป Wealth Spectrum ระดับเขียว
หมวดหมู่ : | ระดับกิจการ |
ระดับ : | สีเขียว |
อันดับ : | 5 จาก 9 |
ตัวชี้วัด : | มีกระแสความลื่นไหลของความมั่งคั่ง (Flow) ผ่านทีมงานในกิจการต่าง ๆ? |
สถานะ : | ความแม่นยำ |
บุคลิกลักษณะ : | มีจังหวะจะโคนในการทำสิ่งต่าง ๆ; สร้างวัฒนธรรมของทีมงานหรือองค์กร; ประเมินผลทุกสิ่งที่ทำ |
สิ่งที่ทำให้เลื่อนขั้น : | อำนาจสั่งการ และเงินทุน |
ฉันมาอยู่ในระดับนี้ได้อย่างไร : | การพึ่งพากันและกัน; การเตรียมตัว; ความทะเยอทะยาน |
ฉันจะรักษาระดับนี้อย่างไร : | ก่อตั้งกิจการของคุณ; ปรับจังหวะของคุณให้เหมาะ; ก้าวเดินไปในจังหวะที่สอดคล้องกัน |
ฉันจะเลื่อนระดับได้อย่างไร : | สร้างตัวคุณให้เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม; พัฒนากระบวนการของคุณให้สมบูรณ์แบบ และสร้างสมดุลของคุณ |
คุณค่าของฉัน : | ภาวะผู้นำ; การบรรลุผลสำเร็จ; ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทีมงาน? |
ต้นทุนของฉัน : | อิสระ; การเมืองในองค์กร; การฝึกอบรมทีมงานอย่างต่อเนื่อง |
บทบาทของระดับนี้ : | ผู้นำในอุตสาหกรรมหรือองค์กร? |
รางวัลของผู้อยู่ในระดับนี้ : | นายทุน |
JOIN FREE! Click >>?Wealth Spectrum VIP
กลุ่ม VIP บนเฟซบุ๊ค เพื่อเรียนรู้แบบเจาะลึกผ่านบทความและวีดีโอเนื้อหาสุดแน่นในชุมชนของเรา
REGISTER! Click >>?Wealth Spectrum Course Online
ลึกได้อีกกับคอร์สออนไลน์ Wealth Spectrum ที่จะพาคุณเขียนแผนที่ความมั่งคั่งในแบบของคุณ ที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติจริงได้ทันที
เรียนรู้ Wealth Spectrum ในระดับต่าง ๆ
ระดับ?ใต้สีแดง เหยื่อผู้ตกอยู่สุดก้นเหวแห่งความมั่งคั่ง
ระดับ?สีแดง นักดิ้นรน สู้สุดกำลังเพื่อต่อลมหายใจแบบวันต่อวัน?
ระดับ?สีส้ม มนุษย์งาน ผู้พอกินพอใช้ภายใต้การทำงานหนัก
ระดับ?สีเหลือง ผู้เชี่ยวชาญ มีกินเหลือเก็บและทำงานคนเดียว
ระดับ?สีเขียว นักดนตรีนำ ผู้คุมทีมเพื่อประสานกระแสแห่งความมั่งคั่ง
ระดับ?สีฟ้า วาทยากร ผู้นำกองทัพนักดนตรีประสานกระแสแห่งความมั่งคั่ง
3 ระดับสเปคตรัมสูงสุด?รวมกันที่นี่?
- สีคราม ผู้พิทักษ์สิทธิ์ เจ้าของหน่วยธุรกิจสร้างความมั่งคั่งอยู่ในกรรมสิทธิ์
- ระดับ สีม่วง?นักประพันธ์ ผู้ทรงอิทธิพลที่สามารถสร้างแรงสะเทือนทั้งอุตสาหกรรม
- ระดับ สีม่วง นักสร้างตำนาน ผู้ที่เงินไม่ใช่ปัญหาและมีชีวิตอยู่เหนือกาลเวลา?