พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์
เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า “มันไม่ผิดหรอกถ้าหากคุณเกิดมาจน แต่มันคือความผิดพลาดถ้าหากคุณตายไปแบบคนจน” ซึ่งประโยคนี้หมายความว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ ดังนั้น ในระหว่างช่วงเวลาที่เรามีลมหายใจ เราได้พัฒนาตัวเองหรือเปล่า และถ้าเราเกิดมาแบบคนจน แล้วตายไปแบบคนจน ก็แปลว่าเราไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเลย
นอกจากนี้ ถ้าเราพิจารณาให้ดี ๆ จะพบว่า ความรวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา แต่มันจะเกิดขึ้นได้เพราะเราฝึกฝน และการคบคนดี เนื่องจากโอกาสดี ๆ มักจะมากับผู้คนเสมอ ๆ
ดังนั้น วันนี้ผมจะมาแบ่งปัน 12 นิสัยช่วยให้คุณรวยได้ภายใน 5 ปี เพื่อให้หลาย ๆ คนได้นำเอาไปฝึกฝนตนเอง ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่จากประสบการณ์ของผม ก็ยืนยันว่า มันเป็นไปได้ที่ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปภายใน 5 ปี ถ้าคุณบ่มเพาะนิสัยเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ
1. เพิ่มคุณค่าตลอดเวลา (value)
การเพิ่มคุณค่าหมายความว่าเราต้องทำสิ่งดี ๆ อยู่เสมอ ๆ โดยไม่ต้องไปสนใจว่าจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาเท่าไหร่ แต่เราจะโฟกัสที่การเพิ่มคุณค่าในงานของเรา เพิ่มคุณค่าให้กับผู้คน ให้กับลูกค้าของเรา และทำมันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมันจะก่อให้เกิดแรงดึงดูดที่ดึงสิ่งดี ๆ กลับมาหาเราเอง
2. ตื่นแต่เช้า (early person)
ลองสังเกตดูก็ได้ว่าถ้าวันไหนถ้าเราตื่นเช้า วันนั้นเราจะรู้สักว่ามีเวลาเยอะขึ้น เราจะสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างให้แล้วเสร็จได้ และเมื่อเสร็จกิจวัตรประจำวัน ในตอนกลางคืนเราก็จะเข้านอนได้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนในช่วงเวลาที่เรานอน ระหว่างสี่ทุ่มถึงตีสอง สมองและร่างกายของเราจะมีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งจะทำให้เราสามารถตื่นเช้าในวันใหม่ได้อย่างสดใสยิ่งขึ้น รวมถึงอย่าเป็นคนนอนดึกตื่นเช้า เพราะมันคือการสะสมความเครียดให้กับร่างกายของเรา
3. ออกกำลังกาย (vitality)
สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือการออกกำลังกาย เพราะการออกำลังกายจะทำให้เรามีชีวิตชีวา มีความสดชื่น เบิกบาน ทำให้ระบบเลือดลมก็ไหลเวียนได้ดี สมองก็ปลอดโปร่ง ความเครียดต่าง ๆ ก็ผ่อนคลายลงไป รวมถึงช่วงเวลาของการออกกำลังกายถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เรามีความสุข เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น และเมื่อเรามีสมาธิ ไอเดียดี ๆ ก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ออกกำลังกายนั้นเอง
4. มีเป้าหมายประจำวัน (goals)
มนุษย์ควรจะมีเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายจะทำให้เรารู้ว่าตัวเรามีความก้าวหน้าหรือเปล่า มีหลายคนมองว่าการตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องไม่สำคัญ เพราะแค่การที่เราจะโฟกัสกับปัจจุบันแล้วทำมันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว แต่ในความจริง แค่นี้มันยังไม่พอ เพราะการทำปัจจุบันให้สมบูรณ์ได้จะต้องมีแผน มีเป้าหมายเป็นระยะ ๆ เพื่อให้เราสามารถชี้วัดได้ว่าเราก้าวไปข้างหน้า หรือเราวิ่งเหยาะอยู่กับที่
5. บริหารเวลาให้ดี – อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ (Time)
มนุษย์ต้องการพักผ่อนก็จริง แต่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับการใช้เวลาของเรา ถ้าเราใช้เวลาในการสร้างเครือข่ายดี ๆ ตัวเราก็จะเป็นคนที่มีเครือข่ายเยอะ ถ้าเราให้เวลากับครอบครัว เราก็จะมีครอบครัวที่อบอุ่น ดังนั้น เราจะต้องแบ่งเวลาว่าเราจะใช้เวลาไปกับอะไรบ้างให้มันสมดุลกัน คนเราไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะการบ้างานโดยไม่สนใจอย่างอื่น หรือการเอาแต่พักผ่อนโดยไม่สนใจงานการ เพราะทุกอย่างจะต้องมีความพอดี
6. ออกไปสร้างคอนเนคชั่น (people)
โอกาสมันจะมากับผู้คน แต่ถ้าเราไม่เอาตัวเองออกไปหาผู้คน โอกาสก็ไม่มีทางมาถึงเราได้ ดังนั้น ตอนนี้เราต้องมองแล้วว่าสังคมรอบข้างเราเป็นแบบไหน เพราอยู่ในสังคมที่เป็นกัลยาณมิตรหรือเปล่า เครือข่ายของเราเป็นคนประเภทไหน ขยันขันแข็ง คิดบวก มีวินัยในตัวเองหรือเปล่า เพราะถ้าเราอยากรวย เราจะต้องมีสังคมที่ดี ถูกห้อมล้อมด้วยคนที่คิดดี ทำดี ใฝ่หาความรู้ และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เมื่อเราอยู่ในสังคมแบบไหน เราก็จะซึมซับจากสังคมนั้น
7. บริหารความคิดบวก (mindfulness)
เวลาที่เราทำอะไรบ่อย ๆ เราจะทำสิ่งนั้นเก่งขึ้น ถ้าหากเราฝึกให้ตัวเองคิดดี เราก็จะมีมุมมองต่อตัวเองและผู้อื่นไปในทางที่ดี แต่ถ้าเราคิดลบบ่อย ๆ เราก็จะมีความรู้สึกที่บันทอนตัวเองและผู้อื่น รวมถึง ถ้าเราอยากให้ชีวิตดึงดูดแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาหาเรา เราจะต้องฝึกให้ตัวเองเป็นคนคิดบวกอยู่เสมอ เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง คนเราต้องคิดก่อนพูด คิดก่อนทำ ถ้าหากเราคิดแบบไหน พฤติกรรมของเราที่แสดงออกมาก็จะเป็นแบบนั้นนั่นเอง
8. กินให้ดี (eat well)
การกินดีไม่ใช่ว่าต้องไปกินของแพง ๆ ร้านอาหารดัง ๆ แต่เป็นการกินเพื่อให้สุขภาพดี อาหารสด อาหารที่มีประโยชน์ ที่มีคุณค่า ถ้าเรากินอาหารที่เป็นโทษต่อร่างกาย ก็จะส่งผลต่อสุขภาพ แล้วมันก็จะไปเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของเราในทุก ๆ เรื่อง อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
9. ออม และลงทุน (save and invest)
วินัยทางการเงินอย่างหนึ่งก็คือ เราจะต้องมีการออมและการลงทุนอยู่เสมอ ๆ ซึ่งการที่เราจะลงทุนอะไรก็ตาม ก็ควรที่จะลงทุนด้วยความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่การลงทุนบนความเสี่ยงในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพราะถ้าเราลงทุนบนความไม่รู้ มันมักจะมีต้นทุนที่จะต้องจ่ายในราคาแพงเสมอ ดังนั้น เลือกที่จะออม และลงทุนอย่างคนมีความรู้ โดยไม่เอาความโลภมาเป็นตัวนำ
10. เป็นมิตรกับผู้คน (be kind)
เราจะต้องเป็นมิตรกับผู้คน เพราะทุกคนที่เราพบเจอ ล้วนแล้วแต่คือผู้ที่นำมาซึ่งโอกาส เช่น โอกาสที่เราจะได้เรียนรู้ โอกาสที่เราจะมีเพื่อน โอกาสที่เราจะสร้างเครือข่าย โอกาสที่เราจะแบ่งปัน โอกาสที่เราจะทำธุรกิจ ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจข้อนี้ เราจะไม่ปล่อยให้โอกาสเหล่านี้หลุดมือไป แต่การเป็นมิตรกับผู้คนไม่ใช่การทำดีเพื่อหวังประโยชน์จากผู้อื่น แต่การเป็นมิตรกับผู้คน คือการที่เราฝึกที่จะเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ โดยธรรมชาติ แล้วสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับเราเอง
11. สะสมคนเก่งเป็นพี่เลี้ยง (find mentors)
ในเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการสงคราม หรือการทำธุรกิจ เราจะเห็นได้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่จะให้ความสำคัญกับที่ปรึกษาทั้งสิ้น ดังนั้น เราควรที่จะสะสมคนเก่งให้มาเป็นพี่เลี้ยงของเรา เราควรที่จะเอาประสบการณ์จากคนอื่นมาเป็นบทเรียนของเราเอง เพราะวิธีการนี้จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น รวมถึงยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เราต้องเจอกับปัญหาบางเรื่องที่คนอื่น ๆ เคยเจอมาแล้ว
12. ช่วยเหลือผู้อื่น (contribute)
การให้คือคุณค่าที่บ่งบอกว่าเรามีความสมบูรณ์แล้ว พอแล้ว เพราะคนที่ยังไม่พอ หรือยังขาดแคลนอยู่ เขาจะไม่สามารถให้ในสิ่งที่เขายังไม่มี ดังนั้น การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นคือการแสดงออกว่าเราเป็นคนที่สมบูรณ์แล้ว และถ้าเราให้สิ่งดี ๆ กับสังคม เชื่อเหลือผู้คน สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะยอดกลับคืนมาหาเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 12 นิสัยช่วยคุณให้รวยได้ภายใน 5 ปี ซึ่งก็เป็นหลักการดี ๆ ที่เป็นแนวทางให้เราเอาไปฝึกนิสัยได้เลยทันที แต่ในช่วงแรก ๆ อยากจะยากหน่อย ถ้าจะทำให้ครบทีเดียว 12 ข้อเลย ดังนั้น ในระยะเริ่มต้นก็อาจจะลองเลือกมาสัก 3-5 ข้อก่อนก็ได้ และถ้าเราทำจนเคยชินและติดเป็นนิสัยแล้ว ก็ค่อยเพิ่มข้ออื่น ๆ เติมเข้าไป จนเราทำได้ครบถ้วนทุกข้อ เพียงเท่านี้เราก็จะเป็นคนที่มีนิสัยแห่งความร่ำรวยได้ไม่ยาก
