พอล ณัฐศิษฏ วาจาสิทธิศิลป์
ในเวลาที่เราคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจ บางคนมักจะติดอยู่กับข้อจำกัดของชีวิตมากมาย เช่น “ความสามารถเราไม่ถึง เราไม่มีทุน คนที่ทำธุรกิจได้จะต้องรวยอยู่แล้ว…” ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ในอีกมุมหนึ่ง ก็อาจจะเป็นทัศนคติที่ดับฝันสำหรับการที่เราจะพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม และทำให้เราจมอยู่กับข้อจำกัดเดิม ๆ ของเรา ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกหลายคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ จากชีวิตติดลบ แต่สามารถเติบโต และสร้างรายได้จนกลายเป็นธุรกิจร้อยล้าน…
ซึ่งในวันนี้ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณประไพศรี ประเสริฐแก้ว หรือ คุณน้ำตาล ซึ่งถือเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ จนกลายเป็นแบบอย่างให้กับใครอีกหลายคน แถมยังเป็นเจ้าของผลงานเขียนหนังสือ พ่อจนสอนให้รวย 4 ปี 4 ร้อยล้าน ซึ่งทำยอดขายระดับ Best Seller อีกด้วย
แต่กว่าที่จะมายืนในจุดที่ทุกคนมองว่าประสบความสำเร็จได้นั้น ก็กล่าวได้ว่า…คุณน้ำตาลต้องผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์มากมาย จนกระทั่งชีวิตที่ติดลบนั้น ได้ผลิดอกและออกผล เติบโตไปสู่การเป็นนักธุรกิจร้อยล้านในที่สุด
โดยเรื่องราวเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็นกรณีศึกษาที่ผมอยากจะหยิบยกเอามาบอกเล่า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไป
จากครอบครัวชาวนา สู่เส้นทางนักธุรกิจ
คุณน้ำตาลเกิดและเติบโตมาในครอบครัวชาวนา ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตชนบทที่มีความขาดแคลน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ในแง่มุมของความอบอุ่นวัยเด็ก เรียกได้ว่าคุณน้ำตาลไม่เคยขาดแคลนเลย โดยเติบโตมาด้วยความเอาใจใส่ของคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุดของชีวิตก็ว่าได้ จนทำให้คุณน้ำตาลมีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะต้องสู้กับชีวิตอันยากลำบาก
“เราเป็นเด็กที่ไม่เหมือนคนอื่น ด้วยความที่ครอบครัวเราลำบาก เพื่อน ๆ ไปเที่ยวเล่นสนุกสนานกัน แต่เราเลือกที่จะไม่ไป เพราะอยากเอาเวลามาทำงานดีกว่า ไปรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แรงค่าแค่วันละ 50 บาท เราก็ไปทำ” คุณน้ำตาล กล่าว…
ซึ่งคุณน้ำตาลเรียนจนจบ ป.6 ก็เป็นอันต้องหยุดเรียนไป เพราะฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวย โดยได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ กับพี่สาว และต่อมาก็ได้ไปอยู่กับพี่สาวอีกคนที่เชียงใหม่ ซึ่งในตอนนั้นเองที่คุณน้ำตาลก็ได้ทำงานและหาโอกาสเรียนหนังสือต่อ จนสามารถเรียน กศน. จบ ม.6 ได้ภายในเวลา 4 ปี
การออกจากวงจรชีวิตเดิม ๆ
คุณน้ำตาลได้เปรียบเปรยชีวิตเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ชีวิตคือวงจรอย่างหนึ่ง เป็นเหมือนวงกลมที่เราใช้ชีวิตอยู่ข้างในนั้น…
“เรามองว่าชีวิตมันเป็นเหมือนภาพวงกลม ที่เราใช้ชีวิตอยู่ในนั้น และด้วยความที่ตอนนั้นชีวิตเราลำบากมาก เราเลยถามตัวเองว่าเราจะออกจากจุด ๆ นี้ ไปสู่วงจรชีวิตแบบใหม่ให้ได้ยังไง…ซึ่งคำตอบที่ได้คือ เราต้องมีจุดเชื่อมโยงจากวงจรเดิม ไปสู่วงจรชีวิตแบบใหม่ นั้นก็คือเราต้องมีการศึกษา”
โดยในตอนนั้น หลังจากเรียนจบ กศน. ม.6 คุณน้ำตาลจึงได้ทำงานส่งเสียตัวเองเรียนต่อ ในด้านนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อเรียนจบก็ได้ไปทำงานเป็นเลขานุการผู้บริหารอยู่ระยะหนึ่ง
การทำงานมาก ได้ความเรียนรู้มาก
คุณน้ำตาลจะทุ่มเทให้กับการทำงานมาก ๆ ซึ่งมีคำพูดที่เป็นเหมือสโลแกนประจำตัวคือ “จ้างพันทำหมื่น…จ้างหมื่นทำแสน” ซึ่งในช่วงที่เริ่มต้นทำงานเป็นเลขานุการนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ทำงานหนักมาก ๆ เพราะจะเริ่มทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า และไปเลิกงานเอาตอนสองทุ่ม แต่ถึงกระนั้นคุณน้ำตาลก็ยังคงมีความสุขกับการทำงานอยู่เสมอ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้อย่างแท้จริง โดยคุณน้ำตาลได้เรียนรู้การทำธุรกิจอย่างที่หาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อน ซึ่งเจ้านายก็ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคุณน้ำตาลอย่างไม่ปิดบัง และด้วยการทุ่มเททำงานอย่างหนัก จนกระทั่งทำให้เริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นเหตุให้คุณน้ำตาลต้องลาออกจากงานนั้นในที่สุด
เมื่อลาออกจากที่ทำงานเดิมแล้ว ก็ได้พักฟื้นจนสุขภาพดีขึ้น ซึ่งในช่วงเวลานั้น ก็ได้มีหลายคนมาทาบทามให้ไปทำงานด้วย เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ทำงานดี ทุ่มเทให้กับการทำงาน จนในทายที่สุดคุณน้ำตาลก็ได้ตกลงใจไปทำงานให้กับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเปลี่ยนสายงานจากเลขานุการไปทำในตำแหน่ง AE
รักษาคำพูด คือรักษาเครดิต
ในช่วงเวลาที่ทำงานในตำแหน่ง AE นั้นถือเป็นช่วงเวลาที่หน้าที่การงานมีความเติบโตเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้สร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์แก่เจ้านาย ซึ่งคุณน้ำตาลสามารถทำงานทุกอย่างได้โดยไม่ขัดข้อง สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสมบูรณ์ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยสามารถทำได้ด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน และมีประสิทธิภาพสร้างผลกำไรให้กับบริษัท จนได้รับค่าตอบแทนอย่างสมเหตุสมผล
ซึ่งคุณน้ำตาลกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ก็เพราะตนเองยึดถือในเรื่องของการรักษาคำพูด…
“คำพูดคือเครดิต…เครดิตคือชีวิต ผิดคำพูด คือเสียเครดิต ไม่มีเครดิต คือชีวิตลำบาก ดังนั้น เวลาที่เราจะรับปากอะไรกับลูกค้า เราจะต้องคิดทบทวนให้แน่ใจเสียก่อนว่าเราทำได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และอยู่กับเรา”
ไม่ลืมบุญคุณคน
ถึงแม้หน้าที่การงานในตำแหน่ง AE ดูจะเติบโตและไปได้สวย แต่ก็เกิดปัญหาการเมืองในองค์กรขึ้นมา ซึ่งทำให้คุณน้ำตาลเกิดความเบื่อหน่าย และได้เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งว่า จะดำเนินชีวิตไปในทิศทางอย่างไรต่อไป ซึ่งก็ทำให้ฉุกคิดไปถึงครอบครัว และญาติพี่น้องที่ยังลำบากอยู่ จึงทำให้คุณน้ำตาลคิดจะเริ่มต้นในการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อให้สามารถเป็นที่พึ่งพิงของญาติพี่น้องได้
“ตอนที่เราตัดสินใจจะออกมาทำของเราเอง เราก็ถามตัวเองว่า มีอะไรบ้างที่เรายังทำไม่ได้ ก็ปรากฏว่า…เราทำได้ทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะไปขายงานให้ลูกค้า เขียนแผนโฆษณาให้ลูกค้า ทำบัญชี วางบิลอะไรต่าง ๆ เราก็รู้งานหมดแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจว่าเราทำได้”
นอกจากนี้ แม้ว่าคุณน้ำตาลจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามากมาย แต่คุณน้ำตาลก็ไม่เคยคิดจะดึงลูกค้ามาจากบริษัทเก่าเลย…
“เรารู้สึกว่า บริษัทเดิมก็มีบุญคุณกับเรา เราได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างมาจากเขา ดังนั้น การที่เราจะออกมาทำบริษัทของตัวเอง เราจะต้องหาลูกค้าใหม่เองทั้งหมด เราจะไม่ดึงลูกค้ามาจากบริษัทเก่า ถึงแม้ว่าเราจะมีคอนเน็คชั่นก็ตาม บางทีลูกค้าเดิมโทรมาหาเรา เราก็บอกว่า…เราออกมาแล้ว ให้โทรไปติดต่อที่บริษัทได้เลย”
และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คุณน้ำตาลยังคงมีสายสัมพันธ์อันดีกับบริษัทเก่าและเจ้านายเก่าอยู่เสมอ จนถึงขั้นในบางครั้งเจ้านายเก่าก็โยนงานมาให้ทำเลยก็มี
บทสรุป
จะเห็นได้ว่าการเดินทางของชีวิตคนเรานั้น แม้จะเริ่มต้นจากติดลบ แต่เราก็ยังสามารถจะพัฒนาตัวเองให้สามารถประสบความสำเร็จได้ตามลำดับ ซึ่งจากการถอดรหัสชีวิตของคุณน้ำตาลนั้น กุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาส ก็มีดังนี้
- การศึกษา คุณน้ำตาลให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก ถึงขั้นขวนขวายส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ และถือเป็นการสร้างจุดเชื่อมอันสำคัญ ที่เปลี่ยนผ่านวงจรชีวิตของคุณน้ำตาลไปสู่วงจรชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
- การทำงานด้วยใจ และเรียนรู้จากสิ่งที่ทำอย่างถึงแก่น มีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน แถมยังมีความสุขที่ได้ทำงาน เพราะรู้สึกว่านี้คือการเรียนรู้ และเป็นงานที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
- มีคุณธรรมประจำใจ โดยยึดถือในเรื่องของการรักษาคำพูด พูดแล้วต้องทำให้ได้ จนลูกค้ามีความไว้วางใจ รวมถึงเมื่อลาออกจากบริษัทเก่า ก็ไม่ได้ดึงลูกค้าของบริษัทเก่าไป แต่จะหาลูกค้าใหม่ด้วยตัวเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวจุดเริ่มต้นชีวิตของคุณน้ำตาล ที่เริ่มจากชีวิตติดลบ แต่สามารถก้าวไปสู่เส้นทางของการทำธุรกิจ และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ โดยในตอนต่อไป คุณน้ำตาลจะเล่าถึงจุดหักเหในการก้าวเข้าสู่เส้นทางนักธุรกิจอสังหาฯ จนประสบความสำเร็จหลายร้อยล้านบาท ซึ่งมีเคล็ดลับและวิธีการอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป…
